โบรกเกอร์ต่างเชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) เล็งผลกำไรปีนี้เติบโตดีได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มออนไลน์สู่ออฟไลน์ (O2O) ในการขายสินค้า โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่ม HORECA และการท่องเที่ยวฟื้นส่งผลดีต่อกลุ่มโรงแรมฟื้นตัวด้วยส่งผลถึงการสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น รวมถึงได้ประโยชน์จากการบริโภคในประเทศฟื้นตัวหลังผ่อนคลายการคุมเข้มต่าง ๆ
นอกจากนี้ ยังได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ ทั้งมาตรการคนละครึ่งและไทยชนะ ซึ่งจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากการที่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา
ส่วนสาขาในต่างประเทศทั้งในเมียนมา, กัมพูชา และอินเดีย น่าจะค่อย ๆ สร้างผลกำไรให้บริษัทฯได้ตั้งแต่ปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า แม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากการประท้วงทางการเมืองในเมียนมา และสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ก็ตาม
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 64 ในช่วง 7,000-7,812 ล้านบาท เติบโต 10-19% จากปี 63 ที่มีกำไร 6,563 ล้านบาท
หุ้น MAKRO ปิดเช้าที่ 36.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+1.40%) ขณะที่ดัชนี SET ปิดเช้าพุ่ง 21.76 จุด
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ซื้อ 52.00
ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 50.00
ธนชาต ซื้อ 46.00
เคจีไอ(ประเทศไทย) ซื้อ 45.00
โนมูระ พัฒนสิน ซื้อ 45.00
ฟิลลิป (ประเทศไทย) ซื้อ 44.50
เอเชีย พลัส ซื้อ 44.00
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ให้เหตุผลที่แนะนำ"ซื้อ"หุ้น MAKRO เนื่องจากกำไรปีนี้ยังเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยได้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มออนไลน์สู่ออฟไลน์ (O2O)ในการขายสินค้า โดยเฉพาะขายให้ลูกค้ากลุ่มโรงแรม ร้านอาหารและจัดเลี้ยง (HORECA) และยังได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวฟื้นตัว ทำให้กลุ่มโรงแรมฟื้นตัวด้วยซึ่งก็จะมีการสั่งซื้อสินค้า รวมถึงได้ประโยชน์จากการบริโภคในประเทศฟื้นตัวหลังผ่อนคลายการคุมเข้มต่าง ๆ ส่งผลให้คาดการณ์ปี 64 จะมีกำไรสุทธิ 7,812 ล้านบาท เติบโต 19% จากปี 63 ที่มีกำไร 6,563 ล้านบาท
ในส่วนสาขาที่ต่างประเทศทั้งในเมียนมา, กัมพูชา และอินเดีย ก็น่าจะค่อย ๆ สร้างผลกำไรให้บริษัทฯได้ตั้งแต่ปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า แม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากการประท้วง และสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ก็ตาม
ด้าน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯคาดว่า ผลประกอบการของ MAKRO จะฟื้นตัวขึ้นในครึ่งหลังปี 64 (H2/64) จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในขณะเดียวกัน บริษัทก็น่าจะได้ประโยชน์ทางอ้อมในครึ่งปีแรก (H1/64) จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ (มาตรการคนละครึ่ง และไทยชนะ) ซึ่งจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากการที่ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ
MAKRO รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 4/63 อยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท (+3% YoY และ +36% QoQ) ดีกว่าประมาณการ จากอัตรากำไรขั้นต้นสูงเกินคาด และค่าใช้จ่าย SG&A ต่ำกว่าที่คาด ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 63 อยู่ที่ 6.6 พันล้านบาท (+5% YoY) ดีกว่าประมาณการ
ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า MAKRO ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 4/63 +36% Q-Q, +3% Y-Y ดีกว่าตลาดคาด และจบปี 63 มีกำไร +5% Y-Y คาดปี 64 เติบโตในอัตราเร่ง +12% Y-Y ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และได้ประโยชน์ทางอ้อมจากมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ
สำหรับ บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะ"ซื้อ"หุ้น MAKRO มีมุมมอง slightly positive ต่อกำไรสุทธิไตรมาส 4/63 ที่ 2.13 พันล้านบาท (+3%y-y , +35%q-q) ดีกว่าคาด เพราะรายได้ส่งเสริมการขายที่ปรับตัวขึ้นดีกว่าคาด ทั้งนี้ กำไรที่ยังเติบโตได้ทั้ง y-y , q-q เกิดจากการควบคุมรายจ่ายขายและบริหารดีขึ้นเหลือ 8.3% (-7bps y-y, -46bps q-q) และสัดส่วนรายได้อื่นโตเป็น 2.5% (+28bps y-y, +31bps q-q)
สำหรับโมเมนตัมไตรมาส 1/64 คาดกำไรมีลุ้นโตต่อ y-y ตามอานิสงส์ทางอ้อมจากมาตรการรัฐ เช่น โครงการคนละครึ่งและเราชนะ รวมถึงการทยอยผ่อนคลายล็อกดาวน์
ทั้งนี้ ยังคงคาดกำไรปี 64 ที่ 7.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น +10% ตาม SSSG (+3%จาก +2% ในปี 63) และการเปิดสาขาใหม่ 5-6 แห่ง (2-3 แห่งในต่างประเทศ และ 3 food service)