ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายหุ้นกลุ่มการเงิน ทุบฟุตซี่ปิดร่วง 74.6 จุด

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงกว่า 70 จุดเมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) จากแรงขายที่ส่งเข้ากระหน่ำหุ้นธนาคารนอร์เธิร์นร็อค หลังจากมีข่าวว่าธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจอนุมัติเงินทุนเป็นกรณีฉุกเฉินให้กับธนาคารนอร์เธิร์นร็อคที่กำลังเผชิญวิกฤตการณ์ด้านสภาพคล่อง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับผลกระทบจากยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ของสหรัฐที่ขยับขึ้นน้อยเกินคาด
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 74.6 จุด ปิดที่ 6,289.3 จุด หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดที่ 6,209.1 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 3.11 พันล้านดอลลาร์
          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกภายในประเทศเดือนส.ค.ขยับขึ้นเพียง 0.3% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะพุ่งขึ้น 0.6% โดยยอดขายรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์เพิ่มขึ้น 2.8% ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2549 ขณะที่ยอดขายน้ำมันเบนซินลดลง 2.4% 
          หุ้นธนาคารนอร์เธิร์นร็อคร่วงลงกว่า 31% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี หลังจากธนาคารยืนยันว่า ธนาคารกลางอังกฤษได้อนุมัติเงินทุนเป็นกรณีฉุกเฉินให้กับนอร์เธิร์นร็อคเนื่องจากภาวะสภาพคล่องตึงตัว ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้บริษัทโบรกเกอร์หลายแห่งปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นนอร์เธิร์นร็อค โดยโกลด์แมน แซค์ และแลนด์แบงกี ปรับลดน้ำหนักของหุ้นดังกล่าวลงสู่ระดับ 'hold'  จากเดิมที่ระดับ 'buy'
          นอกจากนี้ ข่าวความเคลื่อนไหวของนอร์เธิร์นร็อคได้ฉุดหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มการเงินร่วงลงด้วย โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์สดิ่งลง 19 เพนซ์ ปิดที่ 596 เพนซ์ หุ้นธนาคารเอชบีโอเอส รูดลง 32 เพนซ์ ปิดที่ 860 เพนซ์ และหุ้นแบรดฟอร์ด แอนด์ บิงลีย์ ขยับลง 27 เพนซ์ ปิดที่ 329 เพนซ์