นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในปี 64 ประเมินว่าจะสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรให้เติบโตได้ต่อเนื่อง โดยธุรกิจบรรจุภัณฑ์มีสัญญาณที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งจะมีการเติบโตของยอดขายในระดับ 80%จากปีก่อน ในส่วนของธุรกิจพลังงานทดแทน บริษัทฯมีแผนขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆอีกจำนวนมาก ทั้งในและต่างประเทศ โดยล่าสุด ความคืบหน้าของการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 160 MW ที่เวียดนาม ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างก็เป็นไปตามเวลาที่กำหนดไว้ คาดว่าจะสามารถทยอยจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD)ได้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ บริษัทกำลังอยู่ระหว่างศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการลงทุนโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติในเวียดนามตอนกลาง ขนาดกำลังผลิตประมาณ 1,500 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเป็นการร่วมทุนกับผู้ผลิตไฟฟ้ารายอื่นในประเทศ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้และผลกำไรเพิ่มขึ้นได้อีกมากในอนาคต
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความสนใจจะพิจารณาลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศไทยเพิ่มเติม โดยเฉพาะโครงการ Solar 30,000 MW ของกองทัพบก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทฯมีตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปีจะมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 5 หมื่นล้านบาทได้ สำหรับผลการดำเนินงานในงวดปี 63 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,763.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.35% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 2,103.73 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิประจำปี ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่รวม 1,135.312 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 74% ซึ่งถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่มูลค่าหุ้นตามบัญชี (Book Value) อยู่ที่ 5.21 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ บริษัทมีกำไรจากการขายเงินลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถนำมาลงทุนในโครงการต่างๆ ที่ได้วางแผนไว้ เพื่อสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าเดิมหลายเท่า เนื่องจากเป็นการลงทุนตั้งแต่เริ่มโครงการ (Green Field Project) ที่บริษัทสามารถควบคุมและบริหารความเสี่ยงต่างๆ ที่เป็นส่วนสำคัญได้แล้วทั้งหมด
"การถือโครงการต่างๆเอาไว้ในระยะยาว อาจดีกับบริษัทตรงที่มีรายได้ประจำ (Recurring Income) ที่มั่นคงและแน่นอน แต่การขายโครงการที่ได้ราคาที่ดี ก็สามารถนำผลกำไรที่ได้ไปลงทุนต่อยอดในโครงการเป้าหมายต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และมีต้นทุนโครงการที่ต่ำลง เนื่องจากการประหยัดต้นทุนทางการเงิน ซึ่งจะทำให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้นกว่าเดิมมาก" นายยุทธ กล่าว