นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติให้บริษัท ซุปเปอร์วินด์ เอนเนอร์ยี จำกัด (SWE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่ประเทศเวียดนามจำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 50 เมกะวัตต์ โดยมีมูลค่าการเข้าทำรายการซื้อหุ้นไม่เกิน 125,144,240,000 ดองเวียดนาม หรือไม่เกิน 164.19 ล้านบาท
" การเข้าลงทุนในครั้งนี้ SWE บริษัทย่อยเข้าซื้อหุ้นในบริษัท Asia Energy Company Limited (ASIA ENERGY ) ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของโครงการ จากผู้ถือหุ้นเดิมใน ASIA ENERGY ซึ่งได้รับการบรรจุในแผนแม่บทของกระทรวงพลังงานของเวียดนาม โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการยื่นขอสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมโครงการ Asia Song Wind Power Plant ขนาดกำลังการผลิต 50 MW ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพ และสร้างการเติบโตในอนาคตต่อบริษัทอีกด้วย นอกเหนือจากโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฯ ที่บริษัทมี "นายจอมทรัพย์ กล่าว
บริษัทยังคงขยายการลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ (Recurring Income) ผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงในระยะยาว โดยในปี 2564 คาดว่าผลการดำเนินงานจะเติบโต จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนามจำนวน 3 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 550 เมกะวัตต์ ที่รับรู้เต็มปี จากการเดินเครื่องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี 63
นอกจากนี้ ยังได้ปัจจัยหนุนจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 421 เมกะวัตต์ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งก่อสร้าง คาดว่าในเฟสแรก 30 เมกะวัตต์ จะเห็นการทยอย COD ได้ในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องถึงปี 2565
"แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น จากการลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศเวียดนาม โดยคาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,900 เมกะวัตต์ ตามแผนงานที่วางไว้ หนุนทั้งรายได้ และกำไร รวมทั้งมองโอกาสในการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจะพิจารณาการเข้าไปลงทุนในประเทศใหม่ๆ เพิ่มเติม ในหลายรูปแบบ ผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่ง "
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 63 บริษัทมีรายได้รวม 6,514.61 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,527.79 ล้านบาท