นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดปี 65 (ต.ค.64-ก.ย.65) มีแนวโน้มเสี่ยงขาดทุนต่อเนื่องจากงวดปี 64 (ต.ค.63-ก.ย.64) ที่มีผลขาดทุนแน่นอน เนื่องจากแทบไม่มีการบินระหว่างประเทศ และยังไม่แน่ใจว่าในช่วง ต.ค.64-ม.ค.65 ที่เป็นช่วงไฮซีซั่นจะสามารถเปิดน่านฟ้าทำการบินได้ตามปกติ หรือทำการบินโดยไม่มีเงื่อนไขได้โดยไม่มีการกักตัวหรือไม่
ทั้งนี้ หากในช่วง 4 เดือนแรกของช่วงไฮซีซั่นยังทำการบินระหว่างประเทศไม่ได้ จะส่งผลให้แนวโน้มผลประกอบการในงวดปี 65 จะแย่กว่างวดปี 63 (ต.ค.62-ก.ย.63) ที่ช่วงแรกของไฮซีซั่นยังสามารถทำการบินจากต่างประเทศเข้ามาได้บ้าง ทำให้ผลประกอบการไม่ขาดทุน ทั้งนี้ การเปิดน่านฟ้าแบบไม่มีเงื่อนไขขึ้นอยู่กับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 อย่างแพร่หลาย และจะต้องไม่มีการกักตัวผู้เดินทางเข้ามา ซึ่งมีความเป็นไปได้ น้อยมาก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือน พ.ค.64 จะต้องพิจารณาตารางการบิน (Slot) สำหรับสายการบินต่าง ๆ ที่จะกำหนดการวางเที่ยวบินในฤดูหนาว (ต.ค.64-มี.ค.65) โดยจากสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้ไม่มีสายการบินรายใดกล้าจอง Slot ล่วงหน้านาน จึงคาดว่าจะเกิดสภาพ Slot ไม่เต็ม แต่ก็อาจมีเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำมาใช้ภายหลังได้
นอกจากนี้ ยังมีประเด็น Supply Chain Damage ที่ยังไม่รู้ว่าจะเหลือจำนวนสายการบินเท่าใดหลังกลับมาเปิดน่านฟ้า รวมถึงมีสายการบินที่เข้าแผนฟื้นฟูกิจการจะต้องปรับลดจำนวนฝูงบิน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อการกำหนดเที่ยวบิน โดยมองกรณีเลวร้ายสุดอาจจะกลับมาบินได้ในเดือน ก.พ.65
"โอกาสเกิด Best case น้อยมากคือเปิดต้น ต.ค.64 บินแบบไม่มีเงื่อนไข เชื่อว่ายังมี downside ... ปี 65 สุ่มเสี่ยงขาดทุนต่อเนื่อง ส่วนปี 64 เจ๊งทั้งปี เป็นจุดต่ำสุด แต่ในปี 66 จะกลับมากำไร กลับมาบริการเหมือนเดิม" นายนิตินัย กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายนิตินัย กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์ของธุรกิจการบินยังไม่กลับมาดำเนินการได้ตามปกติ แต่บริษัทจะยังคงเดินหน้าลงทุนขยายสนามบินต่อเนื่องทั้ง 3 โครงการ มูลค่าราว 1 แสนล้านบาท ได้แก่ ส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ (North Expansion) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มูลค่าลงทุน 4.2 หมื่นล้านบาท ดอนเมือง เฟส 3 วงเงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาท และรันเวย์ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มูลค่า 2.2 หมื่นล้านบาทซึ่งได้เริ่มก่อสร้างเมื่อ ม.ค.64 แล้ว
ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเปิดประมูลทั้งส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ (North Expansion) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง เฟส 3 ภายในปีปฏิทิน 64 ขณะเดียวกันเตรียมหาแหล่งเงินลงทุนที่อาจมาจากการออกหุ้นกู้ หรือเงินกู้สถาบันการเงินหลังจากที่ปี 64 ขาดทุน และปี 65 มีแนวโน้มขาดทุนต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบัน AOT มีเงินสดอยู่ราว 3 .2 หมื่นล้านบาท
นายนิตินัย กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เร่งผลักดันการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยอยู่ระหว่างรอข้อมูลการประเมินอุตสาหกรรมการบินและผู้โดยสาร จากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) และ องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) หลังจากที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์เห็นชอบโครงการแล้ว คาดจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติในเดือน พ.ค. หรือ มิ.ย.64
ส่วนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง เฟส 3 คาดว่าในเดือน มี.ค.-เม.ย.64 จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และคาดจะเสนอ ครม.ได้ในเดือน ส.ค.หรือ ก.ย.64
นายนิตินัย ยังกล่าวว่า แผนงานโครงการ Airport City อยู่ระหว่างรอกรมธนารักษ์เซ็นขยายระยะเวลาเช่าจากสิ้นสุดปี 75 ไปเป็นปี 95 และคงอัตราค่าเช่าเดิม ส่วนในพื้นที่ 723 ไร่ขณะนี้รอการปรับผังเมืองคาดจะออกประกาศเร็วๆนี้ โดยขณะนี้ได้มีผู้ประกอบการกว่า 40 รายเสนอโครงการในพื้นที่ทั้งสองแห่งเข้ามาแล้ว หลังจากรอการปรับพื้นที่ตามประกาศผังเมืองใหม่กับการเซ็นขยายเวลาเช่าของกรมธนารักษ์แล้ว ก็จะพิจารณาคัดเลือกได้ ซึ่งจะให้ความสำคัญอันดับแรก คือ ธุรกิจการบิน ขนส่ง
ทั้งนี้ รายได้ในส่วน Non-Aero ก็ยังต้องรอให้ธุรกิจ Aero กลับมา เพราะธุรกิจส่วนนี้ก็ยังต้องพึ่งพิงกันอยู่