นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ฐิติกร (TK) เปิดเผยว่า บริษัทคาดพอร์ตสินเชื่อปีนี้จะทรงตัวจากปีก่อนที่ 4,591 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทยังคงระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังต้องติดตามความคืบหน้าด้านต่างๆ ก่อน แม้ว่าจะมีการเริ่มฉีดวัคซีนในประเทศไทยแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ คาดว่ายอดขายรถจักยานยนต์ที่เป็นยอดการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อหลักของบริษัทจะอยู่ที่ราว 1,530,000-1,540,000 คัน เติบโตจากปีก่อนเล็กน้อยที่ 1,517,682 คัน และยอดขายรถยนต์ที่ 840,000-900,000 คัน จากปีก่อนที่มียอดขาย 792,110 คัน
ส่วนสาขาของบริษัทในปัจจุบันมีอยู่ในประเทศ 75 สาขา และจะมีการพิจารณาเปิดสาขาเพิ่มเติมบ้าง แต่อย่างไรก็ตามบริษัทจะเน้นการตั้งจุดให้บริการตามร้านต่างๆและมีการอนุมัติสินเชื่อผ่านระบบ Digital เป็นหลัก ประเทศกัมพูชามีสาขา 12 สาขา และอยู่ระหว่างการขออนุญาตเพื่อเปิดสาขาเพิ่มอีก 3 สาขา สปป.ลาว ปัจจุบันมีอยู่ 3 สาขา อยู่ระหว่างขออนุญาตเปิดเพิ่มอีก 3 สาขา
ขณะที่ประเทศเมียนมาในปัจจุบันมีสาขา 1 สาขา ที่ผ่านมาไม่ได้มีการขยายสาขาเพิ่มเติมเนื่องจากอยู่ระหว่างการเตรียมเข้าซื้อกิจการของ เอ็มเอฟไอเอล (Myanmar Finance International Limited) หรือ MFIL ผู้ให้บริการสินเชื่อในเมียนมา ที่มีสาขาแล้ว 15 สาขา และฐานลูกค้า 70,000 ราย ครอบคลุมรัฐที่สำคัญได้แก่ Yangon, Ayeyarwady, Bago และ Mon รวมถึง MFIL มีแผนงานที่จะเปิดสาขาเพิ่มใน Mandalay
แต่อย่างไรก็ตามด้วยสถานการณ์รัฐประหารที่มีอยู่ในปัจจุบัน และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีการแพร่ระบาดมาอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงชะลอการเข้าซื้อก่อนเพื่อที่จะรอสถานการณ์ต่างๆเข้าสู่ภาวะปกติ โดยมองว่าประเทศเมียนมามีโอกาสในการเติบโตอีกมากด้วยจำนวนประชากรราว 50 ล้านคน และยังมีทรัพยากรธรรมชาติอีกมากที่จะช่วยให้ประเทศมีการเติบโตในอนาคต
"ตอนนี้เราคงยังต้องติดตามสถานการณ์ต่างๆ ทั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจด้านต่างๆทั้งการท่องเที่ยวการนำเข้า และส่งออก ซึ่งหากสถานการณ์ต่างๆดีขึ้นก็จะช่วยบริษัทกลับมาเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป หรือหากสถานการณ์ต่างๆดีขึ้นเร็วเราก็จะกลับมาเติบโตได้รวดเร็วเช่นกัน"นายประพล กล่าว