นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ ต่อเนื่อง โดยมีโอกาสเป็นบวกได้เล็กน้อย ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยอะไรมาชี้นำ ประกอบกับตลาดฯกำลังรอดูปัจจัยจากภายนอกประเทศ อย่างการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้าต่างรอคอยการพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม การที่ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจจะเป็นปัจจัยที่เข้ามาสนับสนุนการลงทุนหุ้นในกลุ่มพลังงานได้ สำหรับปัจจัยทางการเมืองยังไม่ได้มีน้ำหนักต่อตลาดฯมากในช่วงนี้
พร้อมให้แนวรับที่ 790 จุด ส่วนแนวต้านที่ 800, 808, 810 จุด โดยวันนี้มีโอกาสที่ดัชนีฯจะขึ้นเหนือระดับ 800 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(10 ก.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,127.85 จุด เพิ่มขึ้น 14.47 จุด(+0.11%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,451.70 จุด ลดลง 1.85 จุด(-0.13%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,559.11 จุด ลดลง 6.59 จุด (-0.26%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 544.60 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 77.49 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.79 ดอลลาร์
- ยอดจำหน่ายรถยนต์ 8 เดือนแรกติดลบ 9.43% แต่สัญญาณดีขึ้นจากความเชื่อมั่น จากยอดขายในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% ถือว่าเพิ่มขึ้นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ระบุคนเชื่อมั่นมากขึ้นหลังประชามติ และค่ายรถแห่จัดแคมเปญดึงยอดขาย
- รมว.คลัง ให้กระทรวงการคลังประสานกับกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี กู้เงินในประเทศก่อสร้างรถไฟฟ้าสาย สีแดงและสีม่วง โดยไม่ต้องรอเงินกู้จากธนาคารเพื่อความร่วมมือแห่งประเทศญี่ปุ่น(เจบิก)ที่ยังไม่ให้คำตอบว่าจะให้เงินกู้กับไทยหรือไม่ ทั้งนี้ จะได้เริ่มโครงการให้ทันในปีนี้
- แบงก์ชาติ เผยมาสเตอร์แพลน 2 เน้นให้สถาบันการเงินเข้าถึงลูกค้ารายย่อยมากขึ้น โดยลดกฎเกณฑ์ทางการเงินให้ยืดหยุ่นขึ้น และมีระบบข้อมูลลูกค้าที่ครอบคลุมมากพอ หลังพบตัวเลขครัวเรือนฝากเงินกับธนาคารเพียง 49% พร้อมเน้นสร้างเครื่องมือบริหารความเสี่ยงอย่างการพัฒนาตราสารซิเคียวริไทเซชั่น
- ตลาดหุ้นไทย เซ็นเอ็มโอยูหนุนงานไอทีกับ "โฮเซ่" พร้อมศึกษาแนวทางดึงบริษัทเอกชนจดทะเบียนในตลาดหุ้นทั้ง 2 แห่ง ขณะที่ "ภัทรียา" เผยแผนดึงเอกชนไทยในเวียดนามจดทะเบียนตลาดหุ้น เริ่มเห็นผลปีหน้า วาดฝันระยะยาวนำ รสก.เวียดนาม ร่วมด้วย ส่วน บจ.ยื่นขอถอนหุ้นไม่น่าห่วง ชี้บริษัทที่เพิกถอน ส่วนใหญ่เพราะปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ ด้านงานไทยแลนด์โฟกัสตอบร่วมงานแล้วเกือบ 500 คน
- เอกชนยังไม่กล้าตัดสินใจขยายธุรกิจหรือลงทุนที่แท้จริงหลัง 2 ปัจจัยเสี่ยงยังไม่ชัดเจนทั้งโฉมหน้ารัฐบาลใหม่ที่ยังไม่แน่ใครจะเป็นแกนนำจัดตั้ง และปัญหาซับไพรม์ที่ยังต้องติดตามว่าจะกระทบและมีผลให้ค่าเงินบาทไทยแข็งค่าไปอีกมากน้อยเพียงใด ส่งผลให้ออร์เดอร์การผลิตส่วนใหญ่ยังไม่กล้ารับเพิ่ม ชี้ไตรมาส 3 ส่งออกไทยต่ำกว่า10%เหตุผลบาทแข็งและช่วงตลาดซบรอไตรมาส4 เพิ่ม
- คณะกรรมาธิการการคลังฯ พร้อมสนับสนุน พ.ร.บ.เงินตรา เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เนื่องจากเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้ระบบการทำงานของธนาคารแห่งประเทศไทยดีกว่าเดิม ทั้งเรื่องความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือได้ โดยสนช.จะพยายามผลักดันให้ทันในรัฐบาลนี้
- 'เสนาะ'เตรียมประกาศยกพรรค'ประชาราช' แปลงร่างเป็น'เพื่อแผ่นดิน'วันนี้ 'วัฒนา อัศวเหม'โผล่แจม หวังได้ ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 80 ที่นั่ง 'สุวัจน์'หัก'พินิจ-ปรีชา'ไม่เข้าร่วม
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--