นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณ คาดว่า ขนาดของกองทุนรวม ThaiDEX SET50 ETF ซึ่งเป็นกองทุน ETF เป็นกองแรก จะเติบโตปีละ 30-50% จากที่เสนอขายครั้งแรกให้กับประชาชน(IPO) ราว 1 พันล้านบาท เนื่องจากเป็นสินค้าใหม่ที่นักลงทุนรอคอย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ยกเว้นหลักเกณฑ์สำรอง 30% สำหรับเงินทุนนำเข้าจากต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าว ก็น่าจะทำให้ในปีแรกกองทุนอาจเติบโตได้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และจะขยายขนาดได้ถึงเป้าหมาย 5 พันล้านบาทเร็วขึ้น
"จากที่มีการยกเว้นมาตรการ 30% เชื่อว่าในปีแรกขนาดกองทุนจะโตมากว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากเพิ่มความสะดวกสบายให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนจากเดิมที่จะต้องเลือกลงทุนรายตัวแต่มาซื้อกองทุนนี้ได้ลงทุนทั้ง 50ตัว"นายสมจินต์ กล่าว
กองทุนอีทีเอฟ จะเริ่มทำการซื้อขายในหลักทรัพย์วันนี้ โดยอ้างอิงการลงทุนจากหุ้น 50 ตัวแรกที่มีขนาดใหญ่สุดและมีสภาพคล่องในการซื้อขายค่อนข้างสูง มีการคิดค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย 0.10%
นางสาวสุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บล.ธนชาต กล่าวว่า การยกเว้นเกณฑ์สำรอง 30% ให้กับเงินลงทุนในกองทุน ETF จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของ ETF อย่างมาก เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติที่สนใจจะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกลงทุนหุ้นตัวใด ก็สามารถเข้ามาลงทุนใน THAIDEX ได้ทันที
กองทุนดังกล่าวยังมีการคำนวณ NAV ให้ผู้ลงทุนได้รับทราบตลอดเวลา เพื่อให้ได้ทราบสถานะของหุ้นทั้งหมดที่เข้าลงทุน และสามารถเข้าลงทุนในลักษณะเก็งกำไรได้ ซึ่งจะเป็นเสมือนการเก็งกำไรในหุ้นพร้อมกัน 50 ตัว นอกจากนั้น กองทุนดังกล่าวยังมีนโยบายจ่ายปันผลในลักษณะเดียวกับหุ้นใน SET50 โดยจ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง ซึ่งน่าจะทำให้การลงทุนมีความน่าสนใจมากขึ้น
สถิติการลงทุนใน SET50 ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา(2545-2549)พบว่าจะได้รับผลตอบแทนการลงทุน 188.60 ซึ่งสูงที่สุดรองมาการลงทุนในตลาดหุ้น(SET)จะได้รับผลตอบแทน 169.85% ส่วนการลงทุนในตลาดตราสารหนี้(Bond Index)ละผลตอบแทนจากเงินฝาก(Fixed 1 ปี)ผลตอบแทนอยู่ที่ 11.20%
ThaiDEX SET50 ETF มียอดจองซื้อสำหรับการเสนอขายครั้งแรก 778 ราย คิดเป็นเงิน 1,010,968,800 บาท โดยแบ่งสัดส่วนการลงทุนเป็นผู้ลงทุนสถาบัน 81.84% และผู้ลงทุนทั่วไป 18.16%
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/เสาวลักษณ์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--