(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นสิงคโปร์: สเตรทส์ไทม์ปิดลบ 41.90 จุดจากแรงขายทำกำไร

          ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดอ่อนตัวลงในวันนี้ (20 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนได้ระมัดระวังการซื้อขายและมีแรงขายทำกำไรหลังจากที่หุ้นบลูชิปและหุ้นอสังหาฯบางตัวปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเร็วๆนี้  
          นักลงทุนส่วนใหญ่อยูนอกตลาดเพราะยังมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาซับไพรม์ในสหรัฐ โดยนักลงทุนจำนวนมากยังเลือกที่จะรอดูแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐเรื่องซับไพรม์ต่อคณะกรรมการบริการการเงินของสหรัฐ เพื่อใช้เป็นปัจจัยชี้นำทิศทางความเคลื่อนไหวในตลาด                            
          สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ปิดลบ 41.90 จุด หรือ 1.2% ปิดที่ 3,552.46 จุด ปริมาณการซื้อขาย 1.9 พันล้านหุ้น มูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
          เทอเรนซ์ หว่อง หัวหน้าการลงทุนของเอสไอเอเอส รีเสิร์ช กล่าวว่า แม้ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลง 0.5% เพื่อคลายความวิตกในตลาด แต่ความเสี่ยงในตลาดสินเชื่อยังคงมีอยู่ นักลงทุนควรจะระมัดระวังมากขึ้น และยังมีปัจจัยที่นักลงทุนจะกังวลก็คือ ราคาน้ำมันซึ่งได้กลายมาเป็นประเด็นรองๆในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา
          ทั้งนี้ ราคาน้ำมันได้ทะยานขึ้นถึง 82.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลไปเมื่อเร็วๆนี้
          นาจิบ จาร์ฮอม หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบล.เฟรเซอร์ คาดว่า ตลาดจะยังคงมีความผันผวนต่อเนื่อง โดยการลดดอกเบี้ยของเฟดอาจจะบอกเป็นนัยได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในสภาพที่ไม่ดีนัก และข่าวร้ายก็อาจจะถูกเปิดเผยออกมาอีกก็เป็นได้ในช่วงการรายงานผลประกอบการของสหรัฐเดือนหน้า
          หุ้นบลูชิปอย่างสิงเทล ตกลง 20 เซนต์ เพราะไม่สามารถต้านแรงขายทำกำไรหลังจากที่เมื่อวานนี้ดีดตัวสูงขึ้น
          ส่วนหุ้นขนส่งที่อ่อนไหวต่อราคาน้ำมันปรับตัวลง โดยหุ้นเนปจูน โอเรียนท์ ร่วง 10 เซนต์ และหุ้นสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ปรับตัวลง 20 เซนต์