นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.อินเตอร์ไฮด์ (IHL) เปิดเผยว่า ในปี 64 บริษัทเดินหน้าขยายธุรกิจผลิตหนังเฟอร์นิเจอร์และธุรกิจฟอกหนังรองเท้ามากขึ้น รองรับดีมานด์ลูกค้า ส่วนธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ ยังคงเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลัก โดยปัจจุบันมีออเดอร์เข้ามาต่อเนื่อง ทำให้มีการเปิดไลน์การผลิตเบาะหนังรถยนต์ โดยเฉพาะแผนกตัดเย็บ ซึ่งขณะนี้ผลิตได้เต็มกำลังการผลิตแล้ว
ขณะที่กลุ่มธุรกิจใหม่ อาทิ ธุรกิจผลิตภัณฑ์โปรตีน GROW PLUS ยังได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี และธุรกิจขนมขบเคี้ยวสุนัข ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนขอใบอนุญาตสำหรับการส่งออกจำหน่าย คาดว่าจะชัดเจนภายในปีนี้ และจะช่วยสนับสนุนรายได้ให้เติบโตประมาณ 20% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,337.88 ล้านบาท
"ปี 64 บริษัทยังมุ่งเน้นขยายตลาดธุรกิจเดิม อย่างธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันเทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้ามีเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์จะกลับมาชัดเจนภายในปีนี้ รวมทั้ง ธุรกิจใหม่ที่มีการลงทุนในปีที่ผ่านมา โดยเป็นการต่อยอดมาจากการฟอกและผลิตหนังสัตว์ ซึ่งเรามีทั้งโรงงาน วัตถุดิบ ความชำนาญ ความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว และมั่นใจว่า จะช่วยสนับสนุนผลงานของบริษัทฯ ให้เติบโตได้ในระยะยาว" นายองอาจกล่าว
ด้านนายวศิน ดำรงสกุลวงษ์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไป IHL กล่าวว่า ธุรกิจผลิตหนังเฟอร์นิเจอร์มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เนื่องจากขณะนี้ได้รับคำสั่งซื้อ ในการผลิตหนังเฟอร์นิเจอร์ อยู่ที่ประมาณ 4 แสนฟุตต่อเดือน ซึ่งสามารถทยอยรับรู้รายได้ทันที และบริษัทฯ ตั้งเป้าในการผลิตหนังเฟอร์นิเจอร์ให้ได้ 1 ล้านฟุตต่อเดือน
"ธุรกิจผลิตหนังเฟอร์นิเจอร์ กำลังได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ขณะนี้ มีลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศประมาณ 4 ราย ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่มีโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ ตั้งอยู่ในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน จึงช่วยลดต้นทุนในการจัดส่งสินค้าได้เป็นอย่างดี และในอนาคตหากมีออเดอร์ผลิตหนังเฟอร์นิเจอร์เข้ามาเพิ่มมากขึ้น บริษัทเตรียมพร้อมจะเพิ่มกำลังการผลิตเช่นกัน ดังนั้น จึงประเมินว่าธุรกิจนี้น่าจะมีส่วนช่วยสร้างรายได้เพิ่ม สนับสนุนการเติบโตได้ในอนาคต" นายวศินกล่าว
ขณะที่ธุรกิจฟอกหนังรองเท้ามีการเติบโตที่ดี เนื่องจากยังมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทฯ มีลูกค้าจำนวน 3 ราย และอยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายราย ทั้งแบรนด์ดังจากยุโรปและอเมริกา ขณะที่ ธุรกิจผลิตภัณฑ์โปรตีน GROW PLUS ยังมีการขยายช่องทางในการจำหน่าย เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ใช้ในครัวเรือน และใช้ในอุตสาหกรรมการเกษตรให้มากที่สุด