AYS แนะเก็งกำไรช่วงสั้นหุ้นน้ำมัน-โรงกลั่นมองอุปทานมีแนวโน้มตึงตัว

          บล.กรุงศรีอยุธยา(AYS)ยังแนะนำซื้อหุ้นกลุ่มน้ำมัน จากแนวโน้มราคาทรงตัวในระดับสูงตามความกังวลพายุเฮอริเคน และท่าทีของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(OPEC)ที่คาดว่าจะไม่ปรับเพิ่มโควต้าการผลิตในการประชุมวันนี้ (11 ก.ย.)จากระดับ 28.5 ล้านบาร์เรล/วัน 
          ความต้องการพลังงานในขณะนี้ยังมีความไม่แน่นอนจากความเสี่ยงทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบดูไบสัปดาห์ก่อนปรับขึ้น 3.5% เป็น 69.8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ค่าการกลั่นกระเตื้องขึ้นมาเพียง 1.2% เป็น 6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แม้ว่าตลาดจะยังมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหา Sub-prime ในสหรัฐฯ ที่อาจกดดันให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ชะลอตัวลงมากกว่าคาด ซึ่งอาจมีผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ของโลก 
          อย่างไรก็ดี AYS มองว่าผลกระทบจากฤดูกาลเฮอร์ริเคน อาจเป็นประเด็นการเก็งกำไรระยะสั้นของหุ้นกลุ่มน้ำมันและโรงกลั่น แต่กลุ่มดังกล่าวก็มีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนจากการคาดการณ์ตลาดน้ำมันที่คาดยังอยู่ในภาวะตึงตัวต่อเนื่องถึงปี 51 หนุนให้ราคาน้ำมันและค่าการกลั่นทรงตัวในระดับสูง , การขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง และการกระจายความเสี่ยงของโครงสร้างรายได้และกำไรในผลิตภัณฑ์อื่นหรือธุรกิจอื่น 
          AYS คงคำแนะนำ ซื้อ TOP (Fair Price 93 บาท), RRC (Fair Price 24.7 บาท และ 30.3 บาท หลังรวม Synergy Benefit จาก Merged Co.) และ PTT (Fair Price 394 บาท) ที่คาดจะได้ผลบวกทางอ้อมจากการผลการดำเนินงานที่ดีของบริษัทในเครือ อีกทั้งกรณีคำตัดสินของศาลฯ เกี่ยวกับการแปรรูป PTT ที่เริ่มเห็นพัฒนาการหลังศาลฯ กำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการแสวงหาข้อมูลวันที่ 28 ก.ย. 50           
          ส่วน PTTEP ปรับคำแนะนำเป็น"ซื้อ"(Fair Price 137 บาท) จากเดิม"ถือ"เนื่องจากราคาตลาดปรับลดลงจนมี Upside จาก Fair Price ถึง 13% โดยกลยุทธ์การลงทุนแนะนำทยอยซื้อ โดยเฉพาะเมื่อ SET ต่ำกว่า 780 จุด
          ขณะที่ AYS คงประมาณการราคาน้ำมันดิบ และค่าการกลั่น ส่วนผลบวกจากเฮอร์ริเคนถือเป็น Bonus โดยคาดแม้จะไม่มีผลกระทบจากฤดูกาลเฮอร์ริเคน คาดราคาน้ำมันดิบ และค่าการกลั่น ในช่วงครึ่งหลังปี 50 จะไม่ปรับลดลงรุนแรงเท่า 2H49 แต่คาดอ่อนตัวลงจากครึ่งแรกปี 50 
          จากคาดการณ์การคงโควต้าการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC สต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ รวมทั้งน้ำมันเบนซิน และน้ำมันกลั่น ในช่วง 8 เดือนของปี 50 อยู่ในระดับต่ำเทียบ YoY และสถานะการเก็งกำไรที่ไม่รุนแรงเท่าปีก่อน รวมทั้งโรงกลั่นในจีนขนาด 200,000 บาร์เรล/วัน ได้ประกาศเลื่อนการผลิตจากเดิมที่จะเข้าในปี 50 ไปเป็นปลายปี 51 
          AYS ยังคงประมาณการราคาน้ำมันดิบดูไบที่ 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในปี 50 และ 55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในปี 51 เช่นเดียวกับค่าการกลั่นที่ 6.5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในปีนี้(Consensus คาดที่ US$7-8) และปีหน้าคาดอยู่ที่ 6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยให้น้ำหนักด้านอุปสงค์และอุปทานเป็นหลักที่คาดจะตึงตัวต่อเนื่องไปถึงปี 51 ส่วนผลบวกจากพายุเฮอร์ริเคนถือเป็น Bonus ของผลการดำเนินงาน