นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเงินและบริหาร บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) เปิดเผยว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวในประเทศจะดีขึ้นในไตรมาส 2/64 ส่งผลให้บริษัทคาดว่าอัตราการเข้าพัก (OCC) ในปี 64 จะเพิ่มขึ้นมา 35-40%จากปีก่อน 27% และคาดว่ารายได้ต่อห้องพักเฉลี่ย (RevPar) จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 30-40%
สำหรับการเปิดโรงแรมใหม่ในไตรมาส 2/64 บริษัทเตรียมเปิด เซ็นทารารีเซิร์ฟ สมุย จะเริ่มเปิดเฟสแรกในพ.ค.ที่จะถึงนี้ และในช่วงไตรมาส 4/64 จะเปิดโครงการที่ดูไบ
ส่วนแนวโน้มธุรกิจร้านอาหารจะได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งบริษัทคาดว่าตัวเลข GDP ไทยในปี 64 จะพลิกกลับมาเป็นบวก ส่งผลให้แนวโน้มอัตราการเติบโตของยอดขายรวมทุกสาขา (TSS) กลับมาเติบโต 18-20% จากปีก่อนติดลบ 18% และคาดว่าอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSS) จะกลับมาเพิ่มขึ้น 13-15% จากปีก่อนติดลบ 22%
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานในปีนี้ บริษัทพยายามปรับตัวผ่านการสร้างธุรกิจโมเดลใหม่ๆ และเน้นเทคโนโลยีเข้ามาช่วยขับเคลื่อนให้รายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงพยายามปรับลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้วย เช่น ในส่วนของธุรกิจโรงแรมจะเน้นให้ลูกค้าจองห้องพักผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัทและพันธมิตรมากขึ้น ส่วนธุรกิจร้านอาหารจะผลักดันให้การใช้บริการสั่งอาหารผ่านเดลิเวอรี่มากขึ้น แม้ว่าปีนี้จะมีผลกระทบจากโควิด-19 รอบใหม่อยู่บ้าง แต่บริษัทเชื่อว่าหลังจากสถานการณ์โควิด-19 รอบใหม่ในประเทศคลี่คลายลง การท่องเที่ยวและการบริโภคจะกลับมาฟื้นตัว
โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในจังหวัดหัวเมืองที่เดินทางด้วยรถยนต์ เช่น พัทยา ระยอง ตราด หัวหิน จะได้รับปัจจัยหนุนจากการกลับมาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวในประเทศที่อั้นมาจากไตรมาส 1/64 และการกลับมาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยคาดว่าไตรมาส 3/64 จะเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และไตรมาส 4/64 นักท่องเที่ยวจากเอเชีย และยุโรป ทำให้แนวโน้มของบริษัทฟื้นตัวมากขึ้น
สำหรับงบลงทุนปี 64 บริษัทวางไว้ที่ 3 พันล้านบาท แบ่งเป็นการขยายสาขาร้านอาหารในเครือ 1.1 พันล้านบาท ซึ่งจะมีแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 100-120 สาขา และเงินลงทุนอีก 1.9 พันล้านบาท ใช้ปรับปรุงและก่อสร้างโรงแรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ได้แก่โรงแรมในดูไบ และโรงแรมในโอซาก้า โดยที่บริษัทวางงบลงทุนในช่วงปี 63-66 อยู่ที่ 1.38 หมื่นล้านบาท