นายธงชัย ชั้นเสวิกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.มีเดีย ออฟ มีเดียส์ (MEDIAS)คาดว่า ภายในไตรมาส 3/50 จะสามารถสรุปแผนธุรกิจและแผนดำเนินงานในปี 51 ได้ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีการเสนอรายการให้กับสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นนอกเหนือจากช่อง 7 ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อสร้างช่องทางเพิ่มรายได้ รวมทั้งคาดว่าจะร่วมทุนผลิตภาพยนตร์อีก 1 เรื่องในปีหน้า
"ก็ต้องดูว่าจะเสนอให้ช่องไหนก่อน เพิ่มเติมจากช่อง 7 เพราะช่อง 7 เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทั้ง 16 รายการที่มีอยู่ก็ออกอากาศทางช่อง 7 คนก็มองว่าเราคือช่อง 7 แต่ช่อง 7 ก็ไม่ได้ปิดกั้น โดยมารยาทคงไม่เสนอตัวกับคู่แข่งอย่างช่อง 3 ถ้าเป็นช่อง 5 หรือ ช่อง 9 ก็อาจจะเสนอถ้ามีโอกาส"นายธงชัย กล่าว
สำหรับธุรกิจโทรทัศน์นั้น ขณะนี้บริษัทมีรายการออกอากาศทั้งหมด 16 รายการ รวมเวลา 766 นาทีต่อสัปดาห์ เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ทั้งหมด โดยมีรายการในช่วงไพร์มไทม์ ได้แก่ ชิงร้อยชิงล้าน ซึ่งทำร่วมกับ บมจ. เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (WORK), เมืองสำราญ และรายการเส้นทางเศรษฐี
บริษัทมีแผนงานผลิตรายการ"ดาวรุ่งลูกทุ่งไทยแลนด์ 2550"โดยใช้งบประมาณสูงกว่า 30 ล้านบาท ที่จะเข้ามาออกอากาศในช่วงหนึ่งของรายการ"เมืองสำราญ"ที่มาแทนรายการ"มหานคร"ที่ลาจอไปเพราะเรทติ้งต่ำ โดยบริษัทจะการตลาดเพื่อประชาสัมพันธ์รายการให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ด้วยการถ่ายทอดสด 24 ชั่วโมงผ่านทรูวิชั่นส์ช่อง 58
นายธงชัย เชื่อว่าแม้รายการดังกล่าวจะมีการลงทุนสูง แต่น่าจะมีสปอนเซอร์เข้ามาในระดับใกล้เคียงกับเงินลงทุน และมั่นใจว่าปีนี้จะเป็นปีแรกที่จะมีกำไรหลังจากปีที่ 1 และ 2 ขาดทุนปีละ 4 ล้านบาท
ส่วนรายการ"เมืองสำราญ"ซึ่งออกอากาศมาได้ประมาณ 1 เดือนนั้น ปรากฎว่า เรทติ้งดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ขอเวลาอีก 1-2 เดือนกว่าโฆษณาจะเข้ามาเต็ม ซึ่งทางรายการจะมีการปรับคอนเซ็ปต์เพื่อให้เหมาะสมกับเวลาออกอากาศที่นานถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง
ขณะที่การเป็นผู้ผลิตคอนเท้นท์ใหม่ๆเพิ่มให้กับ TRUE หลังจากเห็นว่าการรับจ้างผลิตช่อง T-Channel ให้กับ TRUE ให้ผลตอบแทนดีกว่าตอนที่ลงทุนผลิตช่องเคเบิ้ลทีวีในต่างจังหวัดเอง ซึ่งมีผลขาดทุนมาตลอด
และ MEDIAS กำลังจะได้เวลาช่วงละคร ซึ่งอาจจะเป็นวันเสาร์หรืออาทิตย์ที่รายการละครเรื่องเดิมกำลังจะจบในเร็วๆนี้ ซึ่งเดิมเป็นรายการซิทคอม โดยวันเสาร์เป็นละคร"คนเยอะเรื่องแยะ" ส่วนวันอาทิตย์ คือ "มดใสหัวใจซ่าส์" และยังไม่มีแผนจะขอเวลาเพิ่มเติมอีกในช่วงที่เหลือของปีนี้
นายธงชัย กล่าวว่า หลังจากสรุปแผนธุรกิจปีหน้าแล้ว ในเดือนต.ค.ก็จะลงรายละเอียดเกี่ยวกับการร่วมทุนผลิตภาพยนตร์ เพื่อกำหนดงบประมาณการสร้าง โดยขึ้นอยู่กับว่าจะร่วมทุนกับผู้ผลิตราย เพราะที่ผ่านมาเดิมเคยร่วมกับค่ายจีทีเอช ในเครือแกรมมี่ผลิตภาพยนตร์เรื่อง Season Change และ หมากเตะโลกตะลึงมาแล้ว ซึ่งใช้ต้นทุนค่อนข้างสูง
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าที่ผ่านมามีผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างรายเล็ก ๆ หลายรายเข้ามาเจรจาด้วย ซึ่งหากร่วมมือกันก็คงใช้เงินลงทุนไม่มากนัก และที่ผ่านมาหนังตลกกับหนังผีก็ทำออกมามากแล้ว ก็คงต้องมองหาแนวใหม่ ๆ บ้าง
นายธงชัย กล่าวถึงผลประกอบการว่า บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้และกำไรปีนี้จะเติบโตในระดับ 15-20%
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/นิศารัตน์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--