บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) รายงานผลการดำเนินงานปี 63 โดยมียอดขายรวม 166,884 ล้านบาท ลดลง 7.2% มีกำไรจากการดำเนินงาน 6,443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.3% ขณะที่กำไรสุทธิรวม 3,371 ล้านบาท ลดลง 63.0% ผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 อย่างไรก็ตามเริ่มเห็นการฟื้นตัวของ บจ. ในครึ่งหลังของปี
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาด mai เปิดเผยว่า บจ.ใน mai จำนวน 169 บริษัท คิดเป็น 95% จากทั้งหมด 177 บริษัท (ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC บริษัทที่ปิดงบไม่ตรงงวดและบริษัทที่นำส่งงบไม่ทันตามกำหนด) นำส่งผลการดำเนินงานปี 63 รายงานผลกำไรสุทธิจำนวน 114 บริษัท คิดเป็น 67% ของบริษัทที่นำส่งผลการดำเนินงานทั้งหมด
ผลการดำเนินงานปี 63 บจ. mai มียอดขายรวม 166,884 ล้านบาท ลดลง 7.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ บจ. สามารถควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น โดยมีต้นทุนรวม 130,013 ล้านบาท ลดลง 7.4% ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 21.9% เป็น 22.1% และมีกำไรจากการดำเนินงาน (operating profit) 6,443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.3% ทำให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจาก 3.3% เป็น 3.9%
ขณะที่กำไรสุทธิรวม 3,371 ล้านบาท ลดลง 63.0% เนื่องจากในปี 62 มี บจ. แห่งหนึ่งในกลุ่มทรัพยากร บันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุน มูลค่า 3,376 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิปี 63 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปี 62 แต่หากไม่รวมผลของ บจ. ดังกล่าว กำไรสุทธิรวมจะลดลง 26.8% และมีอัตรากำไรสุทธิลดลงจาก 4.8% เป็น 2.0%
" ในปี 63 การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการดำเนินงานของ บจ. mai ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมส่งผลให้ยอดขายรวมลดลง อย่างไรก็ตามเริ่มเห็นการฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 63 หลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมสถานการณ์ COVID-19 ประกอบกับหลาย บจ.สามารถปรับตัวและบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถมีอัตราการทำกำไรได้ในระดับที่ดีขึ้น โดยพบ 5 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีอัตรากำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มทรัพยากร กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มเทคโนโลยี" นายประพันธ์ กล่าว
ไตรมาส 4/63 ผลการดำเนินงาน บจ. mai ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/63 บจ.มียอดขายรวม 45,247 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% กำไรจากการดำเนินงาน 2,153 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.5% ขณะที่กำไรสุทธิ 1,270 ล้านบาท ลดลง 19.2%
ในส่วนของฐานะทางการเงิน บจ. mai มีสินทรัพย์รวม 281,615 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% จากสิ้นปี 62 ขณะที่โครงสร้างเงินทุนรวมยังอยู่ในเกณฑ์ที่แข็งแรง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 1.10 เท่า เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีที่ 1.03 เท่า
ปัจจุบันมี บจ.ใน mai 177 บริษัท (ข้อมูล ณ วันที่ 9 มี.ค.64) ดัชนี mai ปิดที่ระดับ 398.55 จุด มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (market capitalization) อยู่ที่ 283,541 ล้านบาท มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 2,782 ล้านบาทต่อวัน