นายปราโมทย์ สุดจิตพร รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชียซอฟท์ คอร์ปปอเรชั่น (AS) กล่าวถึงแผนการดำเนินงานปี 64 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 15-20% จากปีก่อน โดยวางงบลงทุนปีนี้ประมาณ 200 ล้านบาท แยกเป็นสองส่วนสำคัญ คือ การพัฒนาระบบไอทีประมาณ 20-30 ล้านบาท และใช้ซื้อลิขสิทธิ์เกมส์ใหม่ ๆ ราว 100-150 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับปริมาณและขนาดของเกมส์
ในปีนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับการเพิ่มรายได้จากเกมส์บนโทรศัพท์มือถือ จากทั้งหมดที่วางแผนเปิดตัวเกมส์ใหม่ทั้งสิ้น 12 เกมส์ แบ่งเป็นเกมส์บนโทรศัพท์มือถือ 8 เกมส์ และเกมส์บน PC 4 เกมส์ จากปีก่อนเปิดตัวเกมส์ใหม่ 7 เกมส์ โดยทางบริษัทคาดการณ์ว่าสัดส่วนรายได้จากเกมส์บนโทรศัพท์มือถือในปีนี้จะอยู่ที่ 35% จากรายได้ทั้งหมด จากปีก่อนอยู่ที่ 9%
พร้อมกันนั้น บริษัทจะขยายตลาดต่างประเทศไปยังประเทศใหม่ อย่าง เวียดนาม โดยในปัจจุบันรัฐบาลเวียดนามได้มีการเปิดให้ขอใบอนุญาตให้บริการเกมส์ออนไลน์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทางบริษัทจึงอยู่ระหว่างการพิจารณาหาพันธมิตรท้องถิ่นเข้ามาร่วมทุน ซึ่งจะเปิดเผยรายละเอียดให้ทราบหลังจากมีข้อสรุปที่ชัดเจนแล้ว
รวมทั้งจะขยายตลาดอินโดนีเซีย หลังจากปีที่แล้วเปิดตัวไป 1 เกมส์ ซึ่งในตลาดอินโดนีเซียจะมีการสนับสนุนดูแลจากทีมงานในสิงคโปร์เพิ่มมาอีกช่องทางหนึ่ง เนื่องจากในสิงคโปร์มีเจ้าหน้าที่ติดต่อประสานงานกับทางอินโดนีเซียโดยตรง และทั้งสองประเทศมีระยะทางที่ใกล้กัน ส่วนตลาดในมาเลเซีย จะเปิดตัวเกมส์ กู่เจี้ยน จากประเทศจีน ซึ่งเป็นเกมส์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา รูปแบบของเกมส์ดังกล่าวนั้นจะต้องชำระเงินเป็นรายเดือนหรือรายชั่วโมงเพื่อเข้าสู่เกมส์ ซึ่งจะสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องอีกช่องทางหนึ่ง
ด้านในตลาดประเทศไทยจะมีการเปิดตัวเกมส์ Real Yulgang Mobile ในไตรมาส 2/64 ซึ่งอาจจะมีการเปิดตัวเกมดังกล่าวในประเทศอื่น ๆ เพิ่มเติมตามมาด้วยในอนาคต จากนั้นจะทยอยเปิดตัวเกมส์อื่น ๆ ที่เหลือตามแผนที่ทางบริษัทวางเอาไว้ ซึ่งบริษัทยังให้ความสำคัญในการมองหาเกมส์ที่มีชื่อเสียง เกมส์ที่มี IP สูง เป็นที่รู้จักในหมู่นักเล่น ไม่ว่าจะเป็น IP ที่มาจากกลุ่มนิยาย ภาพยนตร์ หรือ เกมส์เก่า ๆ ซึ่งเคยประสบความสำเร็จมาแล้วในอดีตที่นำมาพัฒนาใหม่
นายปราโมทย์ ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงยอดผู้เล่นเกมส์ในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ว่า จำนวนขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 ในแต่ละประเทศ เช่น ประเทศไทยมีการระบาดระลอกใหม่ ทำให้สถานศึกษาบางแห่งมีการปิดชั่วคราว ส่งผลให้ยอดผู้เล่นเกมส์เพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันบางประเทศมีการเปิดการเรียนการสอนปกติ จำนวนผู้เล่นเกมส์ก็จะมีจำนวนลดลง ดังนั้นจะมียอดที่เพิ่มขึ้นและลดลงแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ แต่ภาพรวมทิศทางตลาดเกมส์ทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง