นายประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) เปิดเผยผ่าน"ห่วงใย Thai Business"ในหัวข้อ "CEO Talk พลิกวิกฤต" ว่า ธุรกิจการบินรับผลกระทบโควิด-19 ซึ่งบริษัทก็รับผลกระทบเช่นกัน รายได้ลดลงไปถึง 95% ในปี 63 ถือว่าบริษัทได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดโควิด-19
สิ่งแรกที่ทำเพื่อให้การดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยดูแลพนักงานไม่ให้ติดโรคตามที่รัฐประกาศและให้ความร่วมมือ นอกจากนี้ ดูแลกระแสเงินสด จากที่มีกำไรมาต่อเนื่อง มีกำไรสะสมค่อนข้างดี ลงทุนอย่างระมัดระวัง พบว่าบริษัทมีกระแสเงินสดในมือพอบริหารงานได้ 2-3 ปีรวมถึงหาเงินกู้เพิ่มเติมได้ ซึ่งพร้อมดูแลพนักงานโดยไม่ปลดพนักงานแต่ต้องช่วยกันค่าใช้จ่ายดูแลตัวเอง ไม่ไปที่สุ่มเสี่ยง การปรับลดเงินเดือนฝ่ายบริหารลง 50%
ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้หลักจากการบริการเติมน้ำมันอากาศยาน 80-90% ส่วนอีก 10%ขนส่งน้ำมันทางท่อ เรายังกระจายธุรกิจไม่มากพอ จึงได้ขยายธุรกิจ เป็นการลงทุนธุรกิจต่อเนื่องที่เรามีความชำนาญ เช่นการเติมน้ำมันในสนามบินอื่น เช่นสนามบินอู่ตะเภา ในต่างประเทศที่เป็น Regional Hub ที่มีมาก่อนโควิดจะเกิด , การนำ Big DATA ทั้งหมดในการต่อยอด IT Solution และ บล็อกเชน ที่พนักงานรุ่นใหม่ช่วยเข้ามาต่อยอด และยังมองไกลไปถึง Atlernative Energy เพื่อช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม เราได้มองหาพลังานทดแทน พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ แต่โควิดมา กลับเป็นตัวเร่งให้ดำเนินการให้เร็วขึ้น เราเข้าไปซื้อโรงไฟฟ้าที่ COD จะรับรู้รายได้ได้ทันที
"ธุรกิจการบินจะเป็นอย่างไร แต่เรามีทุนเลี้ยงพอเพียงช่วงยังไม่เปิดทำการบิน และมีการลงทุนธุรกิจอื่น อย่างโรงไฟฟ้า ธุรกิจการบิน หากกลับมาก็จะเป็นบวก ขณะนี้ แย่สุดเหลือรายได้ 5% แต่หลังจากมีการบริหารจัดการ และมีการควบคุมโรคแล้ว ซึ่งตอนนี้กลับมา 40-50% ก่อนระลอกสอง และทรุดไป แต่ตอนนี้ค่อยๆทยอยปรับขึ้นมา การเปิดประเทศ ช่วยให้ฟื้น แต่ IATA คาดน่าจะเป็นปี 65-66 กลับมาบินได้ปกติ"
นอกจากนี้ ธุรกิจที่เพิ่งเข้ามาลงทุนธุรกิจประกอบรถเติมน้ำมัน ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเพื่อใช้เอง และยังส่งออกไปต่างประเทศ ซึ่งได้ส่งมอบไปที่ เมียนมา ลาว แล้วและอาจจะส่งไปประเทศอื่นในอนาคต จากแต่เดิมสั่งรถเติมน้ำมันจากต่างประเทศ ซึ่งใช้เวลานาน บางครั้งไม่ท้นการณ์และมีค่าใช้จ่ายสูง
นายประกอบเกียรติ กล่าวว่าที่มาการลงทุนหลากหลายของบริษัท จากก่อนหน้านี้ช่วงที่บริษัทครบรอบ 30 ปีได้มีการระดมความคิดทั้งพนักงาน กรรมการบริษัทมีส่วนร่วมกำหนดทิศทางธุรกิจของบริษัทเพราะธุรกิจบริษัทได้ถึงจุดสูงสุดของ S-Curve แล้ว บริษัทสามารถทำกำไรต่อเนื่องมา 30 กว่าปี ธุรกิจของบริษัทเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจการบินและธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งระหว่างการเติบโตก็มีวิกฤติเข้ามาทั้งด้านการเมือง โรคระบาด ซึ่งได้พิจารณาแล้วว่า บริษัทไม่มีกระจายธุรกิจได้มากพอ และไม่ได้ใช้ข้อมูล Data เกี่ยวกับความต้องการน้ำมันอากาศยาน เต็มที่ รวมทั้ง Digitalization จึงได้มาทำแผนการบริหารจัดการความรู้ว่านำข้อมูลแล้วไปต่อยอด และหาธุรกิจใหม่ๆเข้ามา
จึงได้แตกยอดไปจากบริษัทขนส่งน้ำมันทางท่อ ไปสู่ธุรกิจผลิตรถเติมน้ำมัน และจะดัดแปลงเป็นรถไฟฟ้า รวมถึงรถอื่นๆที่ใช้ภายในสนามบิน นอกจากนี้ ลงทุนนวัตกรรม ไอทีโซลูชั่น บล็อกเชน ซึ่งได้รับพนักงานรุ่นใหม่เข้ามา