"ไทยเบฟเวอเรจ โลจิสติก มอบความเชื่อมั่นและความไว้วางใจแก่ FPIT ในฐานะพันธมิตรหลักเชิงกลยุทธ์เพื่อพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งออกแบบตามความต้องการของ TBL บนรากฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน เราใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อทำความเข้าใจในความต้องการทางธุรกิจของลูกค้า พร้อมวิเคราะห์โอกาสการขยายตัวของธุรกิจในอนาคตเพื่อเป็นแนวทางการออกแบบคลังสินค้าให้สามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสินค้าได้สูงสุด ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสินค้า การบริหารทรัพยากรบุคคล และการบริหารต้นทุนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สนองตอบการทำงานและรูปแบบการหมุนเวียนสินค้าที่รวดเร็วของ TBL ในขณะเดียวกันยังสามารถควบคุมคุณภาพสินค้าคงคลัง ได้อย่างดีเยี่ยม"
หลังจากปีที่แล้ว FPIT ได้ส่งมอบศูนย์กระจายสินค้าแบบสร้างตามความต้องการไปมากกว่า 100,000 ตารางเมตรในพื้นที่ย่านบางพลี ซึ่งรวมไปถึงคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิให้กับฮาวี ลอจิสติกส์ ประเทศไทย และคลังสินค้าที่รองรับการเติบโตของตลาดค้าปลีกให้กับแบรนด์รีเทลชั้นนำในคอนเซ็ปต์ Omnichannel FPIT จึงได้เดินหน้าต่อเพื่อนำความเชี่ยวชาญในการออกแบบคลังสินค้าภายใต้แนวคิด ?สถาปัตยกรรมที่คำนึงถึงผู้ใช้อาคารเป็นศูนย์กลาง? หรือ ?Human-Centric Architecture? เข้ามาใช้ในการออกแบบคลังสินค้าแห่งใหม่นี้ให้กับ TBL โดยการออกแบบจะคำนึงถึงการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี และความปลอดภัยตามมาตรฐานขั้นสูงเพื่อพนักงานของ TBL
ในส่วนของอาคารคลังสินค้า มีพื้นที่เปิดโล่งสูงถึง 12 เมตรทั่วอาคารรองรับระบบจัดเก็บสินค้าในแนวตั้ง พื้นอาคารรองรับน้ำหนักได้มากถึง 5 ตันต่อตารางเมตร ตลอดจนห้องชาร์จแบตเตอรี่สำหรับรถฟอร์คลิฟท์ที่แยกเป็นสัดส่วนจากโซนปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน การออกแบบหลังคาขนาดใหญ่บริเวณจุดรับส่งสินค้า (Loading Bay Canopies) ที่มีขนาดกว้างเป็นพิเศษ ทำให้มีความยืดหยุดในการถ่ายสินค้าเข้า-ออกคลัง รองรับการทำงานของรถบรรทุกทั้งแบบโหลดสินค้าจากด้านหลังและจากด้านข้างสอดรับกับรูปแบบการขนส่งสินค้าของไทยเบฟ
นอกจากนี้ FPIT ได้นำประสบการณ์และเทคโนโลยีมาช่วยในการวางระบบระบายอากาศซึ่งทำให้อากาศภายในคลังสินค้าถ่ายเทได้ดี และการออกแบบช่องแสงด้านข้างอาคาร (Translucent siding) เปิดช่องทางลมและแสงตามธรรมชาติ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพนักงานของ TBL จะได้ปฏิบัติงานในสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ
ศูนย์กระจายสินค้าระดับภูมิภาคแห่งนี้ก่อสร้างบนพื้นที่กว่า 40 ไร่ ตั้งอยู่ในโครงการ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โลจิสติกส์ พาร์ค (วังน้อย 2) ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์สำหรับการกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจโมเดิร์นเทรดชั้นนำของประเทศ เนื่องจากมีการคมนาคมที่สะดวกสบายเชื่อมต่อทางหลวงแผ่นดินทั้งสองสายหลักคือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 และ 9 และเมื่อทางหลวงพิเศษสายบางปะอิน-นครราชสีมา ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 2564 ก็จะยิ่งเพิ่มความได้เปรียบให้ย่านวังน้อยก้าวสู่การเป็นย่านโลจิสติกส์ที่ดีที่สุดของประเทศ และศูนย์กระจายสินค้าหลักของภูมิภาคอาเซียนต่อไป