นายจวง จื้อ เหยา กรรมการ บมจ.ฮั้วฟง รับเบอร์ (ไทยแลนด์) (HFT) เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมเข้าสู่ธุรกิจกัญชาและกัญชง ด้วยการขายเครื่องมือและอุปกรณ์การปลูกแบบอินดอร์ ทั้งการปลูกในระดับครัวเรือน และเชิงพาณิชย์ ซึ่งง่ายต่อการควบคุมอุณหภูมิ น้ำ และแสงไฟ เพื่อทำให้ได้ผลผลิตกัญชงและกัญชาที่มีคุณภาพ โดยบริษัทหวังจะเป็นผู้เล่นในตลาดรายแรก ๆ ของไทย
ขณะที่แนวโน้มธุรกิจหลักในปีนี้นั้น บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโต 15% แตะระดับ 3,200 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทมีคำสั่งซื้อยางล้อจักรยานที่จะทยอยส่งมอบไปถึงปี 65 และมึคำสั่งซื้อยางล้อรถจักรยานยนต์ถึงสิ้นปีนี้ โดยบริษัทจะรักษาระดับอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ 95% พร้อมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตให้ใช้เวลาสั้นลง และเพิ่มผลผลิตให้ได้มากขึ้น
สำหรับผลงานในไตรมาสแรกของปีนี้ มั่นใจว่าจะทำได้ดีกว่าช่วงเดียวกันของปี 63 แม้ในเดือน ม.ค.-ก.พ.จะได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากสถานการณ์ในประเทศเมียนมา แต่ยังสามารถผลิตได้เต็มกำลัง และบริษัทได้มีการปรับขึ้นราคาสินค้าราว 7.5-7.7% เพื่อให้ครอบคลุมราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น แม้ว่าช่วงต้นไตรมาสอาจมีการผลิตสินค้าภายใต้ราคาเดิมสำหรับออร์เดอร์ที่ตกค้างมาจากปีก่อนบ้างก็ตาม
ส่วนไตรมาส 2/64 จะมีการปรับขึ้นราคาอีกหรือไม่นั้น บริษัทอยู่ระหว่างการคำนวณค่าใช้จ่ายและต้นทุนวัตถุดิบ
นายจวง จื้อ เหยา ยังกล่าวอีกว่า ยอดขายของบริษัทมาจากทั้งตลาดในประเทศไทยและตลาดต่างประเทศ ในส่วนของตลาดต่างประเทศนั้นยังคงเป็นตลาดยุโรปเป็นหลัก แต่ในอนาคตบริษัทยังคงมองหาโอกาสขยายตลาดในสหรัฐอเมริกาด้วย ซึ่งแนวโน้มตลาดยางล้อจักรยานและจักรยานยนต์ของโลกยังจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่บริษัทจะเดินหน้าแผนลงทุนสร้าง Distribution Warehouse (โกดังกระจายสินค้า) ในอินโดนีเซีย หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้แผนดังกล่าวต้องหยุดชะงักลง โดยหากสถานการณ์คลี่คลายจะรีบดำเนินการต่อทันที และในอนาคตยังมองโอกาสตั้งโรงงานใหม่ในพื้นที่ EEC เพื่อย้ายโรงงานทั้ง 3 แห่งไว้ด้วยกัน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น