นางกนกวรรณรัตน์ ศรีมณีศิริ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานบัญชีและการเงิน บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) เปิดเผยว่า หลังจากเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ธ.ค. 64 ต่อเนื่องมาถึงเดือนก.พ. 64 ส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทในช่วงไตรมาส 1/64 ที่ชะลอตัวลงไปพอสมควร ทำให้ลูกค้าชะลอการจับจ่ายใช้สอย และความมั่นใจในการใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อของต่างๆลดลงไป ส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทในไตรมาส 1/64
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมองว่าหากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงอย่างชัดเจนแล้ว คาดว่ากำลังซื้อจะค่อยๆกลับมาฟื้นตัวขึ้น ทำให้ยอดขายของบริษัทเริ่มกลับมาฟื้นตัวจากไตรมาส 1/64 บริษัทจึงยังคงเป้ารายได้ทั้งปีนี้และยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) พลิกกลับมาเติบโตในระดับตัวเลขหลักเดียว จากปีก่อนที่รายได้และยอดขายจากสาขาเดิมหดตัวรับผลกระทบโควิด-19 ที่ทำให้สาขาของบริษัทต้องปิดชั่วคราวไปถึง 2 เดือนในปีก่อน
แผนกลยุทธ์ของบริษัทในปี 64 ที่เข้ามาช่วยสร้างยอดขายให้กลับมาเติบโตจะเน้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากปีก่อนสร้างการเติบโตกว่า 100% โดยมีสัดส่วนยอดขายจากช่องทางออนไลน์เพิ่มเป็น 7% จากเดิม 2% และบริษัทยังมองว่าเป็นโอกาสสร้างยอดขายต่อยอดจากยอดขายของสาขา โดยคาดว่ายอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ในปีนี้จะมีสัดส่วนราว 7-10%
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมมองหาโอกาสทางธุรกิจจากแบรนด์ที่บริษัทมีอยู่ คือ Younique ที่จะเร่งการสร้างยอดขายในต่างจังหวัดมากขึ้น และอยู่ระหว่างการพิจารณานำ Younique ไปเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้าเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ และสร้างโอกาสในการขายมากขึ้น อีกทั้งยังมีการรับรู้รายได้จากการขายกลุ่มลูกค้าโครงการเข้ามาในปีนี้ 450 ล้านบาท จากปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าการขายกลุ่มลูกค้าโครงการที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 700 ล้านบาท
ขณะเดียวกันบริษัทยังเดินหน้าลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทให้อยู่ในระดับที่ดี จากการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆลง และลดสินค้าคงเหลือให้ลดลงมาต่อเนื่องจากปีก่อนที่บริษัทลดสินค้าคงเหลือไปแล้ว 500 ล้านบาท
ส่วนการขยายสาขาใหม่ของบริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาสถานการณ์โควิด-19 ในระยะต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร โดยที่บริษัทมีแผนการขยายสาขาใหม่ที่ลาดกระบัง เงินลงทุน 200-300 ล้านบาท หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงชัดเจนแล้ว บริษัทจะตัดสินใจลงทุนก่อสร้างสาขาใหม่ที่ลาดกระบัง โดยปัจจุบันบริษัทมีสาขาทั้งสิ้น 31 สาขา