รายงานข่าวจาก บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด บรรลุข้อตกลงความร่วมมือเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Transition Support Agreement) กับบริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (PTTEP ED) เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของ PTTEP ED ในการเข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณเพื่อเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศนอกชายฝั่งสำหรับการเป็นผู้ดำเนินงานแหล่งเอราวัณในเดือนเมษายน พ.ศ. 2565
ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือเทคโนโลยีสารสนเทศ เชฟรอนประเทศไทยจะสนับสนุนการดำเนินงานของ PTTEP ED ในการเตรียมความพร้อมด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศนอกชายฝั่ง ซึ่งรวมถึงการออกแบบและติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานตลอดจนเครือข่ายระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้การสื่อสารและการจัดการข้อมูลมีประสิทธิภาพ อันเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของปฏิบัติงานนอกชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง โดย PTTEP ED ได้เข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณเพื่อเริ่มสำรวจและวางแผนด้านเทคโนโลยีสนเทศในกลางเดือนมีนาคมนี้
ทั้งนี้ เชฟรอนจะยังคงทำงานร่วมกับ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือ ปตท. สผ. และ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง เพื่อประสานความร่วมมือกันในการส่งมอบแหล่งเอราวัณในช่วงของการเปลี่ยนผ่านนี้ ซึ่งมีความคืบหน้าในกิจกรรมสำคัญต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การเตรียมการสำหรับการถ่ายโอนสิ่งติดตั้งที่ใช้ในกิจการปิโตรเลียมและข้อมูลการดำเนินงานในการบริหารแหล่งเอราวัณ ตลอดจนประสานความร่วมมือในการเตรียมการด้านบุคลากรให้กับ ปตท.สผ. ซึ่งทั้งสองบริษัทได้ร่วมมือกันในกระบวนการสมัครงานและคัดเลือกบุคลากรเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของแหล่งเอราวัณ
โดยในส่วนของพนักงานบนฝั่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จ ส่วนพนักงานนอกชายฝั่งและพนักงานรับเหมานั้นคาดว่ากระบวนการจะแล้วเสร็จภายในกลางปีนี้ นอกจากนี้ เชฟรอนยังได้ให้ความร่วมมือในการอนุญาตให้พนักงานบางส่วนสามารถไปทำงานกับ ปตท. สผ. ได้ตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไป เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานในช่วงเตรียมการ ก่อนสิ้นสุดอายุสัมปทานของแหล่งเอราวัณ อีกด้วย
ถึงแม้ว่าการส่งผ่านแหล่งเอราวัณจะมีความท้าทายด้วยรายละเอียดต่างๆ ที่ซับซ้อน อย่างไรก็ดี เชฟรอนยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งมอบแหล่งเอราวัณให้สำเร็จลุล่วงด้วยความปลอดภัยในเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 ควบคู่ไปกับการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายระยะยาวในการจัดหาพลังงานอย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้ และยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานของประเทศต่อไปในอนาคต
ด้านนายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTEP เปิดเผยว่า บริษัทยังคงไม่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อติดตั้งแท่นหลุมผลิตและเจาะหลุมผลิตในโครงการ G1/61 ได้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่จะทำให้บริษัทสามารถดำเนินการผลิตได้ตามสัญญา PSC เนื่องจากผู้รับสัมปทานปัจจุบันของแหล่งเอราวัณยังไม่ยินยอมให้เข้าดำเนินการดังกล่าว
ส่วนข้อตกลงความร่วมมือเทคโนโลยีสารสนเทศที่ได้ตกลงกันเมื่อเร็วๆ นี้นั้น เป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งของการส่งมอบการดำเนินงานในส่วนของการผลิตจากแท่นหลุมผลิตเดิมเท่านั้น ซึ่งถือเป็นหน้าที่ที่ผู้รับสัมปทานปัจจุบันจะต้องทำ แต่ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายและกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติยังอยู่ระหว่างการเจรจาการส่งมอบงานส่วนสำคัญอีกหลายส่วน เช่น การถ่ายโอนแท่นหลุมผลิตปัจจุบันและข้อมูลการดำเนินงาน
อย่างไรก็ตาม ปตท.สผ. ยังคงหวังที่จะได้รับความร่วมมืออย่างจริงใจจากผู้รับสัมปทานปัจจุบัน ร่วมกับการประสานงานจากทางหน่วยงานภาครัฐ ที่จะช่วยให้สามารถผลิตก๊าซฯ ให้กับประเทศได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต