นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง (FTE) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ที่ 1,084 ล้านบาท รักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 10% ขณะที่สัดส่วนรายได้แบ่งเป็นงานเอกชน 75% และภาครัฐ 25% โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ในปีนี้ (Backlog) เพิ่มเป็น 450 ล้านบาท แบ่งเป็นงานออกแบบและติดตั้งระบบดับเพลิง 380 ล้านบาท และงานจัดจำหน่ายราว 70 ล้านบาท
ช่วงไตรมาสแรกของปี 64 บริษัทชนะการประมูลงานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท อาทิ โรงงานน้ำตาลมิตรผลขอนแก่น, SCG Rayong, EA Battery, Amita E-Bus ขณะที่ยังมีงานที่อยู่ระหว่างติดตามราว 1,200 ล้านบาท คาดหวังจะได้รับงานเข้ามาราว 360 ล้านบาท รวมทั้งอยู่ในช่วงการหาคำสั่งซื้อใหม่เข้ามาเพิ่มเติมในปีนี้อีกราว 274 ล้านบาท
แผนการตลาดในปีนี้ ประกอบไปด้วย รักษาฐานลูกค้าสำคัญ (ที่เป็น Key account) ไม่ว่าจะเป็น กฟผ.หรือผู้รับเหมาที่เป็นลูกค้าประจำ, รักษายอดขายในกลุ่มของลูกค้าที่พักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโดมิเนียม อาคารสูง แม้ว่าตลาดจะแคบลง แต่ทางบริษัทต้องพยายามรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ให้ได้ นอกจากนี้ยังพยายามหาผลิตภัณฑ์ที่สามารถเข้ามาสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้อีกด้วย
บริษัทยังจะให้ความสำคัญกับระบบออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ออนไลน์ โดยในเพจเฟสบุ๊คของทางบริษัทก็มีการอัพเดทข่าวสารให้กับผู้ติดตามอย่างสม่ำเสมอ , ให้ความสำคัญกับธุรกิจที่อยู่ในโรงงานอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น โดยคาดการณ์ว่าหากช่วงแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่านไป เงินที่จะกลับมาลงทุนในภาคส่วนนี้จะเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ธุรกิจดังกล่าวยังสามารถเติบโตและสร้างรายได้ให้กับทางบริษัทได้
พร้อมกันนั้น บริษัทจะเข้าไปร่วมงานกับหน่วยงานภาครัฐมากขึ้น โดยในปัจจุบันจะเป็นงานของ กฟผ.เป็นหลัก และยังคาดว่าจะมีงานติดตั้งระบบดับเพลิงให้กับหน่วยงานอื่น ๆ อีกด้วย, เพิ่มบุคคลากรให้เพียงพอกับแผนการขยายตลาด การขยายงานในส่วน UPS กับ Datacenter ซึ่งทางบริษัทได้รับงานจากภาคเอกชน 1 โครงการและภาครัฐ 1 โครงการ ซึ่งจะมาช่วยเสริมรายได้ให้กับทางบริษัทได้