นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE) เปิดเผยว่า รายได้ในช่วงไตรมาส 1/64 ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง หลังได้รับอานิสงส์จากค่าระวางปรับสูงขึ้นจากภาวะขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ เข้ามาช่วยผลักดันค่าบริการให้สูงขึ้นตาม ขณะที่บริษัทได้ลูกค้ารายใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศมาใช้บริการขนส่งทางทะเลและทางอากาศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดน (Cross Border Services) ภายใต้การบริหารงานของบริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (ETL) ยังมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้บริษัททยอยลงทุนสั่งซื้อตู้คอนเทนเนอร์เพิ่ม 200 ตู้ ซึ่งปัจจุบันทยอยรับมอบตู้แล้วบางส่วน คาดว่าจะรับมอบครบภายในช่วงไตรมาส 2/64 ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมขยายการให้บริการขนส่งสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง และขยายการให้บริการขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มตู้ (LTL) เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่มีปริมาณของไม่มาก เพิ่มช่องทางสร้างรายได้และอัตรากำไรสุทธิอีกหนึ่งช่องทาง สำหรับรองรับงานขนส่งข้ามพรมแดนที่มีดีมานด์เพิ่มสูงขึ้น สำหรับ WICE Supply Chain Solutions Co.,Ltd. (บริษัทย่อย) ให้บริการด้าน Supply Chain ทั้งงานคลังสินค้า การกระจายสินค้า การขนส่งสินค้า (Equipment) ขนาดใหญ่ มีแนวโน้มที่ดี จากการขยายตัวของปริมาณงานบริหารจัดการคลังสินค้า และการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง บริษัทจึงวางแผนหาพื้นที่เปิดคลังสินค้าให้เช่าแห่งใหม่ เพื่อรองรับการขยายงานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพิ่มโอกาสสร้างรายได้ในอนาคต นอกจากนี้บริษัทวางแผนขยายฐานลูกค้าไปยังอุตสาหกรรมที่หลากหลายที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดี อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มยานยนต์ เนื่องจากบริษัทเห็นความต้องการใช้บริการโลจิสติกส์ของอุตสาหกรรมดังกล่าวมีปริมาณสูง จากการรองรับ 5G ที่ขยายตัวมากในเอเชีย อีกทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์มีแนวโน้มฟื้นตัวจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น หลังค่ายรถยนต์ปรับโมเดลใหม่ รองรับระบบไฟฟ้า ประกอบกับ บริษัทเตรียมขยายฐานลูกค้าในกลุ่มที่ต้องการย้ายฐานการผลิตจากจีนมาสู่แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย เวียดนาม และกัมพูชา โดยการนำเสนอโซลูชั่นแพ็คเกจการให้บริการขนส่งวัตถุดิบและอุปกรณ์เครื่องจักรให้กับโรงงานตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง นายชูเดช กล่าวถึงแผนการเข้าซื้อกิจการใหม่ๆว่า บริษัทยังคงเดินหน้าในการเข้าซื้อกิจการใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง โดยได้เริ่มกลับมามีการเจรจากันมากขึ้น หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น และคาดว่าจะกลับมาเดินทางได้อีกไม่ช้า ซึ่งจะสามารถทำให้กลับมาเดินทางไปดูกิจการต่างๆได้