นายยิว ฮอค โคว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสไอเอสบี (SISB) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการทำ Due Diligence เพื่อเข้าซื้อกิจการ (M&A) สถานรับเลี้ยงเด็ก (Nursery) คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 3/64 โดยจะเป็นกิจการรับเลี้ยงเด็กตั้งแต่วัย 6 เดือน ถึง 2-3 ปี เพื่อเข้ามาเสริมธุรกิจโรงเรียนนานาชาติในปัจจุบันที่มีการสอนเด็กอายุระหว่าง 2-18 ปี
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในรอบปี 64 คาดว่าจะมีโอกาสที่จะขยายตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลายและจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติในเร็ววัน อีกทั้งปีการศึกษาใหม่คาดว่าจะมีจำนวนนักเรียนใหม่เพิ่มขึ้น และมีการเปิดโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ธนบุรี เฟสสอง ที่จะรับนักเรียนเพิ่มเข้ามาด้วย
ทั้งนี้ การขยายโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ธนบุรี เฟสสอง มูลค่าการลงทุน 430 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดรับนักเรียนเพิ่มในช่วงเดือน ส.ค.64 ซึ่งจะเพิ่มความสามารถในการรองรับนักเรียนเพิ่มเต็มที่ 600 คน แต่ในปีนี้น่าจะรับเพิ่มเข้ามาราว 200 คน คาดจะคืนทุนได้ภายใน 3 ปี (รวมเฟสแรก)
ส่วนการก่อสร้างโรงเรียน SISB เฟสแรกในจังหวัดนนทบุรี มูลค่าการลงทุน 400 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ และเตรียมการก่อสร้างในที่ดิน 14.8 ไร่ คาดว่าจะเริ่มได้ในช่วงกลางปี 64 และจะพร้อมรับนักเรียนใหม่ช่วงเดือน ส.ค.65 สามารถรองรับนักเรียนเต็มที่ 1,000 คน โดยทั้งปี 65 คาดว่าจะมีนักเรียน 400 คน และน่าจะสามารถคืนทุนได้ไม่เกิน 7-8 ปี (รวมเฟส 2)
นายยิว ฮอค โคว กล่าว่า หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 คลี่คลายและมีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ อีกทั้งเริ่มมีการฉีดวัคซีน ทำให้ประชาชนมีความมั่นใจมากขึ้น ทำให้โรงเรียนสามารถกลับมาเปิดการเรียนการสอนตามปกติได้เร็วกว่าที่คาด โดยโรงเรียนได้มีมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันความปลอดภัยให้กับนักเรียนและบุคลากรทุกคน
"หลังจากเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติ เริ่มมีผู้ปกครองติดต่อเข้ามาเพื่อส่งบุตรหลานเข้าเรียนในภาคปกติ เพราะมั่นใจเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย และที่สำคัญคือมั่นใจในหลักสูตรการเรียนการสอน ที่ได้รับการยอมรับในระดับมาตรฐานสากล อีกทั้งอาจารย์และบุคลากรของโรงเรียนเป็นทีมงานที่มีคุณภาพ โดยปีนี้คาดว่าจะมีจำนวนนักเรียนใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 200 คน" นายยิว ฮอค โคว กล่าว