BUILK ประกาศรับการลงทุนจาก Beacon VC บริษัทเงินร่วมลงทุนของธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ในรอบ Series B ร่วมกับนักลงทุนเชิงยุทธศาสตร์อีก 3 ราย ต่อยอดเทคโนโลยีและบริการทางการเงินเต็มรูปแบบ นำเทคโนโลยีมาพัฒนาประสิทธิภาพในกระบวนการบริหารวัสดุก่อสร้าง และยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างสู่ยุคดิจิทัล มั่นใจการลงทุนสามารถเอื้อประโยชน์ทั้งซัพพลายเชนก่อสร้าง เจ้าของโครงการ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจเทคสตาร์ทอัพ แพลตฟอร์มสัญชาติไทย เติบโตเข้าสู่เฟสของการทำกำไรและตั้งเป้าเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ต่อไป
บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด (BUILK) เทคสตาร์ทอัพสัญชาติไทย ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการบริหารธุรกิจก่อสร้างและการซื้อขายวัสดุก่อสร้างออนไลน์ ตระหนักว่าในภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย อุตสาหกรรมก่อสร้างยังเป็นเป็นอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตอยู่อย่างต่อเนื่อง จากการลงทุนก่อสร้างภาครัฐ โครงการเมกะโปรเจคและงานสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ แต่ปัญหาหลักของการพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้างยังคงเป็นการเข้าถึงเทคโนโลยีและแหล่งเงินทุน ทำให้ผู้ประกอบการในภาคก่อสร้างไม่สามารถพัฒนาประสิทธิภาพได้ เกิดความสูญเสียทั้งเรื่องต้นทุน เวลา และคุณภาพ
บิลค์ วัน กรุ๊ป จึงพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อยกระดับการทำงานของธุรกิจก่อสร้างมากว่า 11 ปี และต่อยอดสู่บริการต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการก่อสร้าง เจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างกว่า 3,500 ราย เปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานเป็นดิจิทัลได้สำเร็จ การเติบโตด้วยรูปแบบธุรกิจ Software-as-a-Service และ Workflow-Integrated Marketplace เปิดโอกาสให้เกิดการขายสินค้าและบริการบนแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์บริหารธุรกิจก่อสร้าง โดยในปีที่ผ่านมาสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 500 ล้านบาท และกำลังขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนต่อไป
นายไผท ผดุงถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า การให้บริการที่ครอบคลุมทั้งซัพพลายเชนของ บริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม BUILK ที่ช่วยผู้รับเหมาไทยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงต้องการขยายโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับผู้รับเหมา หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินสำหรับผู้รับเหมา ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการสนับสนุนของบริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด ที่ต้องการจะยกระดับการให้บริการที่มีความสร้างสรรค์และมีนวัตกรรมทางด้านการเงินที่ทำให้ผู้รับเหมาไทยทำงานเป็นระบบมากขึ้น ลดการทำงานที่ซ้ำซ้อน เมื่อทำงานเป็นระบบ ทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ ทำให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายกว่าผู้รับเหมาทั่วไป ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่จะผลักดันและพัฒนาขีดความสามารถของผู้รับเหมาไทยไปอีกขั้น
นอกจากนั้น ทาง BUILK ยังพัฒนาเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนวิธีทำงานในไซต์งานก่อสร้าง ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาดในการทำงานมากขึ้น ยกระดับการให้บริการของผู้รับเหมา สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า สร้างเครือข่ายให้เกิดปฏิสัมพันธ์ แสดงความคิดเห็นและเข้าถึงกันด้วยเทคโนโลยี
นายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (บีคอน วีซี) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพในการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการเงินและเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของธุรกิจอุตสาหกรรมก่อสร้างในประเทศไทยที่ยังมีความสามารถที่จะเติบโตได้อีกมาก แต่เมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมก่อสร้าง พบกับความท้าทายที่เกิดจากการดิสรัปต์ของธุรกิจก่อสร้างใหม่ ๆ รวมถึงการเกิดโรคระบาดที่ไม่มีใครคาดคิด ทำให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และธุรกิจก่อสร้างสำหรับงานเอกชนด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ยังมีความสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนาและเติบโตของประเทศไทยอย่างมาก ดังนั้นธนาคารกสิกรไทยและบริษัทบิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด จึงได้ร่วมมือกันหาแนวทางเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ เพื่อสนับสนุนสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้าง ที่มีความสามารถ และศักยภาพในการเติบโต แต่ขาดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการดำเนินธุรกิจ โดยใช้เทคโนโลยีเพื่อขยายขีดความสามารถ พัฒนาระบบการทำงาน และเพิ่มโอกาสในการรับเหมาก่อสร้างมากขึ้น
นอกจากนี้ การร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่าง บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด และ บริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด ในครั้งนี้ ยังมีพันธมิตรสำคัญที่ทำให้วิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันนั้นเป็นจริงได้ โดยได้รวมจุดเด่นและความแข็งแกร่งของทั้ง 3 พันธมิตรร่วม นั่นก็คือ แอดเวนเจอร์ส บาย เอสซีจี บริษัท ครี-ฟูล จำกัด และ บริษัท โรสวูด แคปปิตอล จำกัด ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านอุตสาหกรรมก่อสร้างมาอย่างยาวนาน มาช่วยเสริมในการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับวงการก่อสร้างร่วมกัน ทางด้านองค์ความรู้ พัฒนาระบบการทำงาน และนำประสบการณ์จริงมาแก้ไขปัญหาด้วยเทคโนโลยี ช่วยให้การทำงานของบริษัทรับเหมาไทยสะดวก รวดเร็ว และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น ตอบโจทย์ด้วยนวัตกรรมและการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย