บล.คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) มองปัจจัยกระทบการลงทุนสัปดาห์นี้ คือ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันนี้คาดว่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายในระดับเดิม แต่ประเด็นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ตลาดให้น้ำหนักมากนัก แต่เชื่อว่าน้ำหนักจะอยู่ที่ตัวเลขเศรษฐกิจของไทยที่จะมีการเปิดเผยออกมาตามการประชุมรอบจบไตรมาสแรก รวมถึงถ้อยแถลงของ กนง.เกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ยจากนี้ โดย CGS มองว่าหากคณะกรรมให้แนวโน้มที่เป็นบวกกับเศรษฐกิจมากขึ้น แต่ยังเน้นการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อเป็นการ กระตุ้นเศรษฐกิจ จะเป็นบวกกับตลาดหุ้น
และอีกปัจจัยหนึ่งคือ ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศในเดือน ก.พ.64 ซึ่ง Bloomberg คาดการณ์มูลค่าส่งออกและนำเข้าประจำเดือน ก.พ. ที่ -2%YoY และ 11.5%YoY ตามลำดับ หากดีกว่าคาดก็มองเป็นบวกต่อตลาดหุ้น
สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) สัปดาห์นี้มีโอกาสซึมตัวลงกรอบ 1530-1570 เนื่องจากไม่มีปัจจัยหนุนทางบวกมากนัก ขณะเดียวกันปัจจัยในประเทศก็ค่อนข้างเป็นไปในทิศทางเชิงลบจาก (1) การเมืองที่เริ่มกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง (2) สถานการณ์แพร่ระบาดโควิดที่เห็นจุดระบาดใหม่ ณ โรงงานย่านพระราม 2
รวมถึงการเร่งตัวขึ้นของ US 10Y Bond Yield แม้สัปดาห์ก่อนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะระบุว่ายังคงใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไปพร้อมคงขนาด QE ที่ระดับเดิม แต่ในวันศุกร์ US 10Y Bond Yield ก็ยังเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องสะท้อนว่านักลงทุนไม่เชื่อเฟด ดังนั้นสัปดาห์นี้ก็มีโอกาสที่จะเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องกลับมากดดันตลาดหุ้นทางอ้อม
กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ แนะรับเหมาก่อสร้าง (CK STEC) เดินเรือ (PSL) โรงพยาบาล (CHG) อาหาร (ASIAN) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB) ทั้งนี้ยังคงยึดบริเวณ 1,555 หากถอยหลุดควรเพิ่มความระมัดระวังขั้นแรกและขั้นสองควรเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นหากปิดต่ำกว่า 1,555 จุด