นายนพวงศ์ โอมาธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการเงินและบริหารองค์กร บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) คาดว่า ยอดขายก๊าซ LPG ในปี 64 จะทำได้ราว 7.8 แสนตัน ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ 8 แสนตัน หลังจากช่วง ม.ค.-ก.พ.ยอดขายลดลงราว 2 หมื่นตัน โดยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่ แต่ถือว่ายอดขายยังทำได้สูงกว่าปีก่อนที่มียอดขาย 7.5 แสนตัน
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการในปีนี้ยังจะได้รับผลดีจากการที่บริษัทได้ขยายธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจจากเดิมที่พึ่งพาธุรกิจ LPG เพียงอย่างเดียว โดยขยายไปสู่ธุรกิจอาหารที่มีแนวโน้มเติบโตดี และมีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ที่ค่อนข้างน่าสนใจ โดยตั้งเป้าหมายสัดส่วนกำไรจากธุรกิจ Non-LPG เพิ่มขึ้นเป็น 20% ภายในปี 68 ส่วนอีก 80% มาจากธุรกิจก๊าซ LPG
ทั้งนี้ ในวันที่ 8 เม.ย.นี้ บริษัทจะเปิดร้านผัดไททะลุฟ้า และร้าน Hungry Rabbit สาขาสยามสแควร์ ซึ่งจะเป็นร้าน Flagship
ขณะที่ในปี 64 บริษัทได้ตั้งงบลงทุนไว้ 500-550 ล้านบาทใช้ในธุรกิจก๊าซ LPG เพื่อกระจายจุดกระจายและจำหน่ายให้เพิ่มมากขึ้น และในส่วนธุรกิจอาหารจะใช้ขยายสาขาร้านอาหารที่มีอยู่ 4 แบรนด์ ได้แก่ ผัดไทยไฟทะลุ, ข้าวซอย Hungry Rabbit, ร้าน Table 38 และ Pi Kun โดยจะมีการต่อยอดขยายธุรกิจอาหารที่มีส่วนผสมกัญชา รวมถึงธุรกิจอาหารสำเร็จรูปที่เน้นการส่งออก
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมนำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทในการเข้าลงทุนธุรกิจใหม่ที่สนใจ ได้แก่ ธุรกิจ Solar Rooftop ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่ และธุรกิจซ่อมถังก๊าซ
"เรามีงบฉุกเฉินเพื่อว่าเมื่อมีโอกาสเข้ามาหา เรามีเงินสดตุนไว้แล้วประมาณ 1 พันล้านบาท และ D/E เราก็ยังต่ำ เราจะสามารถต่อยอดธุรกิจได้ ภาพรวมเราสนใจธุรกิจที่มีความเป็นไปได้" นายนพวงศ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหาร WP ยันยันว่า บริษัทไม่เคยมีการพูดคุยกับ บมจ. เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (7UP) เพื่อเข้าลงทุนหรือร่วมมือทางธุรกิจ แม้ว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง บิดาของ นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WP เข้าไปถือหุ้นใน 7UP เพิ่มเป็น 8.23%