ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,570.83 จุด เพิ่มขึ้น 6.58 จุด (+0.42%) มูลค่าการซื้อขาย 85,436.91 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,570.84 จุด และระดับต่ำสุด 1,555.72 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 666 หลักทรัพย์ ลดลง 905 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 487 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายปรับตัวขึ้นดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ ได้แรงหนุนจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และยังมีมาตรการช่วยเหลือออกมาอย่างต่อเนื่องจากภาครัฐฯอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า กนง.ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 64 เป็น 3.0% จากเดิมคาดโต 3.2% แต่ถือว่ายังใช้ได้ ส่งผลให้มีแรงเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็ก ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่ยังมีปัจจัยกดดันจากต่างประเทศ อีกทั้งแรงขายทำกำไรที่เกิดขึ้นในระหว่างทางก็เป็นแรงขายหุ้นที่ราคาปรับขึ้นไปมากแล้ว เพื่อโยกมาลงทุนหุ้นที่ราคายังต่ำอยู่
ทั้งนี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในยุโรปที่มีการล็อกดาวน์ในหลายประเทศจากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ให้ติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศด้วย
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (25 มี.ค.) น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ช่วงนี้ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในกรอบในช่วงรอปัจจัยกระตุ้นใหม่ แต่ดัชนีฯยังยืนเหนือ 1,560 จุดได้ก็ถือว่ายังดี พร้อมให้แนวรับ 1,560-1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575-1,580 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
OR มูลค่าการซื้อขาย 4,935.88 ล้านบาท ปิดที่ 33.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 3,164.44 ล้านบาท ปิดที่ 396.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท
SAWAD มูลค่าการซื้อขาย 2,515.58 ล้านบาท ปิดที่ 86.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,035.46 ล้านบาท ปิดที่ 145.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
SCGP มูลค่าการซื้อขาย 1,951.34 ล้านบาท ปิดที่ 48.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท