นายชนัตถ์ สรไกรกิติกูล ประธานกรรมการการเงินและบริหารความเสี่ยง บมจ.แพรนด้า จิวเวลรี่ (PDJ) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดรายได้ปีนี้จะเติบโตมาที่ 3,201 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 2,462 ล้านบาท โดยทุกธุรกิจฟื้นตัวดีขึ้นจากปีก่อนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
โดยธุรกิจฐานการผลิต (Production) ซึ่งมีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 65% ของรายได้รวม คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ 1,507 ล้านบาท เป็นไปตามกลุ่มลูกค้า Affordable ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลัก ที่ยังคงมีความต้องการซื้อสินค้าอยู่ แม้เศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงถดถอย หรือมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ก็ยังมีการจับจ่ายใช้สอยในลักษณะที่มีความระมัดระวังมากขึ้น ในกลุ่มสินค้าที่มีราคาจับต้องได้ คาดว่าปีนี้จะใช้กำลังการผลิต (Capacity Utilization) อยู่ที่ 90% จากปีก่อน 85% รองรับฐานลูกค้าดังกล่าวที่คาดจะเพิ่มขึ้น
ขณะที่ธุรกิจค้าปลีก (Retail) ซึ่งมีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 30% ของรายได้รวม คาดว่าปีนี้จะมีรายได้อยู่ที่ 1,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ 826 ล้านบาท โดยจะมาจากแบรนด์ PRIMA GOLD จะมุ่งเน้นการขยายการให้บริการผู้บริโภคไปสู่เครื่องประดับอื่นๆ ไม่จำกัดแค่ 24K gold/Diamond เช่น เครื่องประดับเพชร, พลอยสีอื่นๆ เป็นต้น และเน้น VVIP Program หรือกลุ่มลูกค้าที่มี Loyalty กับแบรนด์ PRIMA สูง เป็นฐานลูกค้าที่ชื่นชอบสินค้าและมีการซื้อสินค้าหลายครั้งต่อปี ซึ่งบริษัทฯ ก็จะมอบความ Exclusive ให้กับฐานลูกค้าดังกล่าว รวมถึงการ Co-creation exclusive pre-order, referral program เป็นต้น
นอกจากนี้จะทำ Synergy กับพาร์ทเนอร์ทั้งห้างสรรพสินค้า และบัตรเครดิต เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น โดยไม่ได้จำกัดแค่สินค้า 24K และมุ้งเน้นการทำกิจกรรม CRM เพื่อกระตุ้นยอดขาย รวมถึงการพัฒนาช่องทางการขาย Omni Channel Platform Development เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายของ PRIMA ปีนี้เติบโต 29% เป็น 855 ล้านบาท จากปีก่อน 662 ล้านบาท
ส่วนเว็บไซต์ GEMONDO ที่ดำเนินการขายเครื่องประดับแท้ราคาจับต้องได้ ประมาณ 1,000-5,000 บาท ในช่วงของโควิด-19 ก็ส่งผลให้ GEMONDO เติบโตขึ้น และหลังจากช่วงคลายล็อกดาวน์มาก็เติบโตขึ้นมาก ทำให้ปีนี้บริษัทฯ ก็ตั้งเป้าหมายว่าจะมีรายได้แตะ 100 ล้านบาทได้ จากปีก่อนทำได้ 82 ล้านบาท โดยมีแผนขยาย GEMONDO เข้าไปใน Market place ที่ทวีปยุโรป หรือเรียกว่า Zalando
ด้านธุรกิจจัดจำหน่าย (Distribution) ประเทศอินเดีย ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานเป็นของตัวเอง เพื่อลดปัญหาการนำเข้า คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ในเดือนพ.ค.64 โดยบริษัทฯ คาดจะมีรายได้ในปีนี้ที่ 101 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่อยู่ที่ 129 ล้านบาท เนื่องจากได้เลิกดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายในประเทศอื่นๆ อย่าง Pranda North Amreica, Inc. หลังผลการดำเนินงานไม่เป็นไปตามเป้า เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานลง