LPN บวก 7.28% โบรกฯคาดโครงการใหม่จะขายดี-ยอดรับรู้รายได้ปี50-51ยังสูง

          หุ้น LPN บวก 7.28% อยู่ที่ 8.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.55 บาท เมื่อเวลา 15.04 น.โดยเปิดตลาดที่ 7.65 บาท ราคาปรับขึ้นสูงสุดที่ 8.15 บาท และราคาปรับลงต่ำสุดที่ 7.65 บาท
          บทวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) แนะซื้อหุ้น LPN จับตาการเปิดขายโครงการใหม่ วิลล์ ประชาชื่น-พงษ์เพชร เสาร์ 29 ก.ย. นี้ หลังจากบริษัทเลื่อนการเปิดขายมาสักระยะเพื่อรอดูความต้องการของลูกค้าอย่างเด่นชัด 
          โดยโครงการดังกล่าวเป็นอาคารสูง 19 ชั้น 950 ยูนิต พื้นที่ 32.0-64.5 ตารางเมตร มูลค่าขาย 1.3 พันล้านบาท โปรโมชันคือ “วันเดียวราคาเดียว" เริ่มต้นที่ 999,000 บาท เฉพาะวันเปิดจองโครงการวันแรกคือ 29 ก.ย.นี้ 
           เรื่องดังกล่าว เป็นไปในทางบวก คาดว่าโครงการนี้จะขายได้ในอัตราที่สูง เพราะจากการศึกษาของ LPN ในความเป็นไปได้ของโครงการอย่างละเอียด พบว่าความต้องการของลูกค้าอยู่ในระดับประมาณ 2 เท่า 
          สำหรับการรับรู้รายได้จะเกิดขึ้นในปี 52 แต่สังเกตได้ว่ามูลค่าของโครงการปรับลดลงจากก่อนหน้าที่เคยแจ้งไว้ที่ 2 พันล้านบาท สาเหตุเป็นเพราะทำให้การอนุญาตขอใบอนุญาตสภาพแวดล้อมเป็นไปได้ง่ายขึ้น ดังนั้นบริษัทน่าจะต้องเปิดขายโครงการใหม่เพิ่มเติม จากก่อนหน้ามีแผนจะเปิดขายทั้งหมด 4 โครงการ รวมมูลค่าขาย 4.4 พันล้านบาท โครงการอื่นๆ คือ คอนโดทาวน์ รามคำแหง 26, เพลส ปิ่นเกล้า 3 และ คอนโดเพื่อผู้เกษียณซึ่งมีแนวโน้มว่าโครงการนี้จะเลื่อนไปปีหน้าด้วย 
          นอกจากนี้มีข่าวดีอีกว่า บริษัทแก้ปัญหาการขายฝืดในโครงการเพลส รัชดา-ท่าพระได้ดีขึ้น ด้วยการออกโปรโมชัน “ทุกชั้นราคาเดียว" ทำให้ยอดขายดีขึ้น จากเดือน ก.ค.ที่ 43% ปัจจุบันเป็น 60% ในปัจจุบัน ข้อดีคือ จะทำให้การรับรู้รายได้ในปี 51 ไม่สะดุด และมีกระแสเงินสดเข้ามาบริษัท แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะน้อยลงบ้าง เพราะปกติชั้นที่สูงกว่าควรจะมีราคาขายที่สูงกว่า 
          ราคาพื้นฐานที่ 10.36 บาท ซึ่งอิงตาม P/E ปี 51 ที่ 14.0 เท่า และคาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลปี 51 ที่ 4.9% ข้อดีของ LPN คือ มียอดขายรอรับรู้รายได้ที่สูง ทำให้การรับรู้รายได้ในปี 50-51 มีความราบรื่น สำหรับอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิปี 50 และ 51 คาดว่าเป็น 25% และ 14% เทียบกับ yoy ตามลำดับ