นายหาญศิริ แสงวงศ์กิจ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสและนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (SKN) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดรายได้ปี 64 จะเติบโตกว่าปีก่อนที่ทำได้ 2,479.11 ล้านบาท เนื่องจากมีการปรับราคาขายขึ้น หลังพบว่ามีความต้องการผลิตภัณฑ์แผ่นใยไม้อัด MDF เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงมุ่งเน้น Product Mix โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่มี value added เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนให้รายได้ของบริษัทฯ ปีนี้เติบโตไปได้ โดยบริษัทฯ จะยังรักษาระดับการเดินเครื่องการผลิตในปีนี้ไว้ไม่ต่ำกว่า 90% ใกล้เคียงกับปีก่อน แม้ระยะสั้นอาจจะมีการปิดซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักรบ้าง แต่ยืนยันไม่กระทบกับภาพกำลังการผลิตทั้งปี
ปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกมากถึง 90% โดยหลักมาจากประเทศตะวันออกกลาง คิดเป็น 52% ของการส่งออกทั้งหมด รองลงมาเป็นประเทศในเอเชีย ราว 30% ส่วนที่เหลือเป็นการขายในประเทศและอื่นๆ ซึ่งค่าเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่าก็จะช่วยหนุนให้รายได้ของ SKN ปรับตัวขึ้นด้วย
สำหรับศักยภาพการส่งออก MDF ในประเทศตะวันออกกลางในปีนี้ บริษัทฯ ยืนยันยังสามารถแข่งขันได้ แม้เผชิญปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน และการขนส่งที่ติดขัดในขณะนี้ (ปัญหาเรือ Ever Given ขวางคลองสุเอซ) ซึ่งอาจกระทบกับราคาตู้คอนเทนเนอร์ที่แพงขึ้น หรือค่าระวางเรือที่สูงขึ้น เนื่องด้วยบริษัทฯ สามารถเจรจาในเรื่องค่าขนส่งกับทางลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนนี้ได้
แต่อย่างไรก็ตามจากปัญหาดังกล่าว คาดว่าจะกระทบกับบริษัทฯ ในแง่ของรอบการจัดส่งสินค้า จากตู้คอนเทนเนอร์ที่ลดลง ทำให้กระทบกับปริมาณการขายของบริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ ก็พยายามหาช่องทางอื่นๆ ในการขนส่งภายในภูมิภาคเอเชีย หรือหาช่องทางอื่นที่ไม่ได้ใช้ตู้คอนเทนเนอร์ในการขนส่ง
ด้านการลงทุน ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์รูฟบนหลังคาโรงงาน เพื่อใช้ภายในโรงงาน คาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้า (COD) ได้ในครึ่งปีแรกของปีนี้ และน่าจะลดค่าไฟฟ้าลงอย่างชัดเจนในครึ่งปีหลังเป็นต้นไป ส่วนการลงทุนโรงงานผลิตกาวและสารเคมี ของบริษัทย่อย บริษัท เอส.คลีเบอร์ เคมีคอล จำกัด (S.KLEBER CHEMICAL Co.,Ltd) คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในครึ่งปีแรกนี้