หุ้น RT ราคาพุ่งขึ้น 6.50% มาอยู่ที่ 2.62 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท มูลค่าซื้อขาย 220.38 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.42 น. โดยเปิดตลาดที่ 2.48 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 2.46 บาท
นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง (RT) เปิดเผยว่า ปี 64 บริษัทตั้งเป้ารายได้ทำนิวไฮต่อเนื่อง เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% มาที่ 3,600 ล้านบาท และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 15-20% โดยแผนดำเนินงานมุ่งเน้นกลยุทธ์เชิงรุกรับงานในประเทศมาร์จิ้นสูงและงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่
พร้อมเดินหน้าเข้าประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานใหญ่อุโมงค์รถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ, งานสายไฟลงใต้ดิน, งานป้องกันลาดชันไหล่ทาง, งานถนน ฯลฯ โดยบริษัทมีความพร้อมรับงานทั้งบุคลากรและเครื่องจักรรองรับงานได้ทันที สิ้นปีนี้คาดว่าจะมี Backlog เพิ่มเป็นอย่างต่ำ 7,000 ล้านบาท
ขณะที่งานต่างประเทศ โครงการก่อสร้างอุโมงค์ผันน้ำเขื่อนเดือนตรี กัมพูชา มูลค่า 196 ล้านบาท คืบหน้าแล้ว 32% น่าจะส่งมอบงานได้เดือน ต.ค.64 เพื่อรับรู้รายได้ส่วนที่เหลือ 128 ล้านบาท และหากสถานการณ์โควิดคลี่คลายบริษัทจะเดินหน้าหางานใหม่ ๆ เพิ่มเติมในต่างประเทศ
บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น RT ด้วยราคาเป้าหมาย 3.00 บาท ล่าสุดบริษัทได้รับงานโครงการใหม่รวม 13 โครงการ มูลค่า 688 ล้านบาท ส่งผลให้ backlog เพิ่มขึ้นเป็น 4.2 พันล้านบาท จากสิ้นปี 63 ที่ 3.6 พันล้านบาท ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกมากขึ้นต่อ RT จากมูลค่างานลงนามสัญญาใหม่ (New signed projects) ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เทียบกับที่บริษัทแจ้งในช่วงเดือน ม.ค.ที่ 8 โครงการ มูลค่ารวมเพียง 280 ล้านบาท เบื้องต้นคงประมาณการมูลค่าลงนามสัญญาใหม่ปี 64 ที่ 2.2 พันล้านบาท และรายได้ที่ 3 พันล้านบาท +4% YoY แต่จากโมเมนตัมที่บริษัทได้รับงานใหม่ต่อเนื่อง ทำให้มองว่ามีโอกาสสูงมากที่มูลค่าโครงการใหม่ และรายได้ปีนี้จะมากกว่าคาด
นอกจากนี้ ยังมีโครงการขนาดใหญ่ที่เป็น key highlight รออยู่ ซึ่งจะเปิดประมูลใน พ.ค.64 ได้แก่ โครงการอุโมงค์รถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งมองว่าบริษัทมีโอกาสสูงมากที่จะได้รับงานบางส่วนทั้งในรูปแบบ main หรือ subcontractor ประเมินโครงการลงนามสัญญาใหม่ที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 500 ล้านบาท จะเป็น upside ต่อประมาณการกำไรปกติปี 64 ราว +5%
backlog ปัจจุบันอยู่ในระดับสูงซึ่งสามารถ secure รายได้อย่างน้อยถึงครึ่งแรกปี 65 (H1/65) ขณะที่แนวโน้มการเติมโครงการใหม่ยังมีสูงเนื่องด้วยบริษัทเป็นผู้รับเหมางานประเภทที่ niche ซึ่งเป็นงานที่ต้องอาศัยความชำนาญและการแข่งขันไม่สูงมาก และปัจจุบันเทรดที่ 2564 PER เพียง 11x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มผู้รับเหมาขนาดเล็กที่ 16x