บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาจากบริษัท แซม คอร์ปอเรชั่น บริษัทลูกของบมจ.ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น (TWZ)ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือซัมซุง และหวังจะเจรจาประนีประนอมเพื่อไม่ให้กระทบต่อทุกฝ่าย พร้อมย้ำสินค้าที่นำเข้ามาขายในไทยไม่มีรุ่นเก่า เพราะบริษัทแม่ไม่มีนโยบายเก็บสต็อก แต่จะผลิตตามคำสั่งซื้อเท่านั้น
ตัวแทนจากบริษัท แซม คอร์ปอเรชั่นได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายควัง คี ปาร์ค กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัดและนายชุง จุน คิม ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม ไทยซัมซุงฯซึ่งเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือซัมซุง เนื่องจากผู้บริหารทั้งสองรายมีพฤติกรรมที่สร้างความเสียหายทางธุรกิจให้บริษัท แซมฯ เป็นเงิน 63 ล้านบาท
วันนี้ไทยซัมซุงฯได้เปิดแถลงข่าวด่วน หลังบริษัท แซม คอร์ปอเรชั่น แจ้งความดำเนินคดีผู้บริหารบริษัท ไทยซัมซุงฯ โดยนายควัง คี ปาร์ค กรรมการผู้จัดการ บริษัทไทยซัมซุงฯ หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา กล่าวสั้นๆว่า การเปิดแถลงข่าววันนี้เพื่อไม่ให้เกิดสร้างความสับสนและความคลางแคลงใจให้กับผู้บริโภค คู่ค้าทางธุรกิจและลูกค้าของบริษัท โดยบริษัทยึดมั่นในหลักการที่จะสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับผู้บริโภคและคู่ค้าทุกรายในไทย และบริษัทฯ ยินดีให้ความร่วมมือกับทางการอย่างเต็มที่เพื่อหาข้อสรุปที่แน่ชัดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายอาณัติ จ่างตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยซัมซุง ฯ กล่าวว่า บริษัทจะดำเนินธุรกิจต่อเนื่องเพื่อให้โทรศัพท์มือถือของซัมซุงเข้าถึงลูกค้าตามเป้าหมาย ดังนั้น ปัจจุบัน แซม คอร์ปอเรชั่น ยังคงเป็นผู้จัดจำหน่ายของซัมซุง ขณะเดียวกันกำลังหาแนวทางเพื่อไม่ให้กระทบต่อทุกฝ่าย อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยังต้องรอดูเงื่อนเวลา และรอการพิจารณาคดีของตำรวจ
"ไทยซัมซุงฯอยู่ในประเทศไทยมา 18 ปีแล้ว เราหวังว่าน่าจะพูดคุยกัน น่าจะจบกันได้ด้วยดี...เราเป็นพ่อค้า เราไม่ได้ค้าความ ผมไม่ได้กล่าวหาว่า แซมฯทำผิด ทำไม่ถูกแต่อย่างใด แต่ก็เรียนตรงๆ ยังคิดหลายๆทางเลือกไม่ให้กระทบกระเทือนทุกฝ่าย" นายอาณัติ กล่าว
นายอาณัติ กล่าวว่า ไทยซัมซุง ฯ แต่งตั้ง แซม คอร์ปอเรชั่น เป็นตัวแทนจำหน่ายในเดือนม.ค.50 โดยแซม คอร์ปอเรชั่น ได้นำเสนอแผนการดำเนินธุรกิจ รวมถึงเป้าหมายการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและแผนการกระจายสินค้าด้วย
แต่แซม คอร์ปอเรชั่น มีขีดความสามารถจำกัดในการเข้าถึงช่องทางการจัดจำหน่ายและการบรรลุเป้าหมายการขายได้ตามที่เสนอในแผนการดำเนินงานธุรกิจ จึงทำให้มีสินค้าค้างสต๊อกอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ทั้งสองบริษัทต้องมีการประชุมเพื่อแก้ปัญหาที่ประเทศเกาหลีเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.50 และตกลงให้มีการปรับโครงสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อให้ครอบคลุมทั่วถึงยิ่งขึ้น
ตามข้อตกลงได้ให้ แซม คอร์ปอเรชั่น จะจำหน่ายในช่องทางที่ถนัด คือ ช่องทางผู้ค้าปลีกรายย่อย และการฝากขายทางโมเดิร์นเทรด
ส่วนร้านค้าปลีกที่มีสาขาจำนวนมาก (Chain Store) และโอเปอเรเตอร์ (Operator) ซึ่งแซม คอร์ปอเรชั่น ไม่สามารถเข้าถึงช่องทางเหล่านี้ได้ บริษัทฯ จึงเป็นผู้จัดจำหน่ายแทน ขณะเดียวกัน ไทยซัมซุง ได้ให้คำแนะนำไม่ให้ แซม คอร์ปอเรชั่น สั่งซื้อสินค้าเพิ่มเพื่อลดปริมาณของสต๊อกคงค้าง
นายอาณัติ กล่าวถึงข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการหลอกให้ซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่านั้นว่า แซม คอร์ปอเรชั่น ได้สั่งซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นปัจจุบันจากสำนักงานใหญ่ ซึ่งเป็นโทรศัพท์ที่ถูกผลิตขึ้นใหม่ตามที่มีการสั่งซื้อ ซึ่งแซม คอร์ปอเรชั่น ได้มีการปรับปรุงรายการสั่งซื้อเป็นประจำทุกเดือน และการที่แซม คอปอเรชั่น ซื้อสินค้าจากผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือซัมซุง 3 รายเดิมก็เป็นข้อเสนอของแซมฯ เอง และถ้ามีราคาส่วนต่างก็มาขอเคลมจากบริษัทได้
"สินค้าที่ส่งเข้ามาขายเป็นสินค้ารุ่นใหม่ แต่วงจรโทรศัพท์มือถือมีการเปลี่ยนแปลงเร็ว จึงต้องขึ้นอยู่กับความเข้าใจตรงกันว่าคำว่าเก่าหรือใหม่" นายอาณัติกล่าว
และกรณีการกล่าวหาไทยซัมซุงว่ามิได้ให้การสนับสนุนด้านการเงิน เป็นจำนวนเงิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นผลให้เกิดความเสียหายแก่ แซม คอร์ปอเรชั่น เป็นจำนวนเงิน 63 ล้านบาทนั้น นายอาณัติ กล่าวว่า แซม คอร์ปอเรชั่น ได้ขอการสนับสนุนจากบริษัทฯ ในการซื้อสต๊อกจากตัวแทนจำหน่ายเดิม โดยบริษัทฯ ตกลงที่จะให้การสนับสนุนตามความเป็นจริง
ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินสนับสนุนการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือซัมซุง เป็นเงินมากกว่า 150 ล้านบาท โดยเฉพาะแคมเปญเรื่องเรน ที่ส่งเสริมการขายโทรศัพท์มือถือ รุ่น D900 และ E900 รวมทั้งรุ่น E250
พร้อมกันนี้ นายปาร์ค เป็นผู้มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการบริหารทุกส่วนงานของบริษัทฯ ทั้งด้านการขาย การตลาด การนำเข้า รวมถึงการแต่งตั้งและเพิกถอนผู้แทนจำหน่ายและผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทุกผลิตภัณฑ์ของซัมซุงทั้งในประเทศไทย พม่า ลาว และกัมพูชา จึงไม่เป็นไปตามข้อกล่าวหาเกี่ยวกับอำนาจการบริหารของนายปาร์ค
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--