นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% มาที่ 3,200 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 1,777 ล้านบาท จากการทยอยรับรู้รายได้ของการขายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้ง 10 แห่ง ประกอบด้วย ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าชีวมวล CRB, MWE, MGP, TSG, PGP, SGP , PTG ,TPCH 5 , TPCH 1 และ TPCH 2 กำลังการผลิตรวม 109 เมกะวัตต์ (MW)
และในปีนี้เตรียม COD โรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าขยะ เพิ่ม 3 แห่ง รวม 16 เมกะวัตต์ ทำให้กำลังการผลิตรวมขยับขึ้นเป็น 125 เมกะวัตต์ "ในปี 64 นี้ บริษัทฯ คาดว่า ผลการดำเนินงานจะมีการเติบโตไปในทิศทางที่ดี เนื่องจากโรงไฟฟ้าชีวมวลใหม่ที่ COD ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาและต้นปีนี้จะเริ่มมีความเสถียรมากขึ้น ทำให้สามารถทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนผลงานในปีนี้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่ 20% จากปีก่อน" นางกนกทิพย์กล่าว บริษัทยังคงเป้าหมายสัญญาซื้อขายไฟ้าในมือ (PPA) ที่ระดับ 250 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันยังขาดอีก 80 เมกะวัตต์ โดยในส่วนของโรงไฟฟ้าชีวมวลตั้งเป้าเพิ่มให้ถึง 200 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 115 เมกะวัตต์ โดยจะเข้าไปประมูลโรงไฟฟ้าชุมชน ส่วนการผลิตไฟฟ้าจากขยะตั้งเป้าเพิ่มอีก 40 เมกะวัตต์ ปัจจุบันอยู่ที่ 10 เมกะวัตต์ โดยในปีนี้และปีถัด ๆ ไปคาดว่าภาครัฐจะเปิดประมูลโรงไฟฟ้าขยะอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตทางบริษัทได้มีการวางแผนทำลานไม้เพื่อที่จะรับซื้อไม้โดยตรงจากชาวบ้าน ไม่ผ่านคนกลาง ทำให้ต้นทุนถูกลง และเนื่องจากโรงไฟฟ้าชีวมวลที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในภาคใต้ ทางบริษัทคาดว่าในอนาคตอาจจะต้องปลูกพืชพลังงานเพื่อเป็นเชื้อเพลิงเอง เพื่อจะได้ไม่ต้องพึ่งพาไม้ยางพาราเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะช่วยให้บริหารต้นทุนให้ถูกลงมากที่สุด นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ TPCH กล่าวว่า บริษัทมีแผนะ COD โรงไฟฟ้าในปีนี้เพิ่ม ทั้งโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าขยะ 3 แห่ง ประกอบด้วย
1) โรงไฟฟ้าขยะสยาม พาวเวอร์ (SP) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 10 เมกะวัตต์ ปัจจุบันก่อสร้างไปแล้วมากกว่า 80% กำหนด COD ไตรมาส 2/64 นี้
2) โครงการโรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวล แม่ลาน ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 3 เมกะวัตต์ งบลงทุน 347 ล้านบาท ก่อสร้างไปแล้ว 44%
3) โรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวล บันนังสตา ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 3 เมกะวัตต์ งบลงทุน 373 ล้านบาท ก่อสร้างไปแล้ว 67%
โครงการโรงไฟฟ้าประชารัฐทั้งสองแห่งนั้น มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าอยู่ที่โรงละ 2.85 เมกะวัตต์ ได้รับค่าไฟ 5.14 บาท กำหนดเริ่ม COD ประมาณไตรมาส 4/64 หรือ ไตรมาส 1/65 ในส่วนของโรงไฟฟ้าชุมชน จากข้อกำหนดจะมีไฟฟ้าที่ให้เอกชนเสนอราคา (Bidding) ได้ที่ 150 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นไบโอแมส 75 เมกะวัตต์ และไบโอแก๊ส 75 เมกะวัตต์ และโครงสร้างการลงทุน (Investment Structure) จะต้องประกอบไปด้วย เอกชน 90% และวิสาหกิจชุมชน 10% ต้องเป็นผู้จัดหาพืชพลังงานต่าง ๆ ให้กับโรงไฟฟ้าและในปัจจุบันทางบริษัทกำลังเตรียมข้อมูลเพื่อยื่นเร็ว ๆ นี้ "บริษัทยังคงเดินหน้าในการเตรียม COD โรงไฟฟ้าทั้งโรงไฟฟ้าชีวมวลและขยะ ให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีความพร้อมในการเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากทันทีที่ภาครัฐประกาศให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลโครงการได้" นายเชิดศักดิ์ กล่าว นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2564 มีมติอนุมัติให้นำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท วัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการดำเนินงานหรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนและสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัท รวมทั้งการขยายธุรกิจ