บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) เซ็นสัญญาเช่าที่ดิน อาคาร และเขื่อนเทียบเรือ บริเวณคลังพระโขนง-บางจาก กับ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) สัญญาระยะเวลา 15 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.64 เพื่อนำไปใช้เป็นคลังสำรองน้ำมันและก๊าซ LPG รวมทั้งเตรียมนำพื้นที่ดังกล่าวไปต่อยอดธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า (EV)
สัญญาเช่าที่ดินบริเวณพระโขนง-บางจาก ได้แก่ สำนักงานและคลังน้ำมัน โดยมีพื้นที่ 41,300 ตารางวา, อาคารและเขื่อนเทียบเรือบริเวณปากคลองบางจากและปากคลองเจ๊ก มีพื้นที่รวม 3,575 ตารางวา
น.ส.จิราพร ขาวสวัสดิ์ รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ OR กล่าววว่า การใช้ประโยชน์ของพื้นที่ดังกล่าว พื้นหลักจะใช้เป็นคลังสำรองน้ำมันฯ แต่ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ก็มองการต่อยอดการใช้พื้นที่สำหรับการจัดเก็บสินค้าของธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil) ด้วย รวมถึงมองการพัฒนาพื้นที่ร่วมกับ กทท. เพื่อตอบรับเทรนด์รถ EV ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องด้วยปัจจุบันบริษัทก็มีศูนย์ซ่อมรถยนต์ ภายใต้ชื่อ FIT Auto หากมรถ EV เข้ามาก็อาจจะพัฒนาไปสู่ศูนย์ฝึกช่างได้
อนึ่ง เดิมพื้นที่ดังกล่าวทาง กทท.ได้ทำสัญญาเช่ากับ บมจ.ปตท. (PTT) โดยมีระยะเวลา 5 ปี เมื่อหมดสัญญาลงทาง PTT จึงให้ทาง OR ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเข้ามาเป็นผู้ทำสัญญาต่อไป
เรือโทกมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการ กทท. กล่าวว่า จากให้ OR เป็นผู้เช่าพื้นที่ดังกล่าว นอกจากจะเป็นการพัฒนาสินทรัพย์ให้เกิดมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐศาสตร์ให้แก่ กทท.ที่จะมีรายได้จากการให้เช่าหลัก 100 ล้านบาทแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานและธุรกิจของ OR ซึ่งเป็นองค์กรที่มีการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาภาคสังคม โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบด้านสังคมชุมชนและสิ่งแวดล้อม เพื่อดำรงอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน
อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ เพื่อรองรับความต้องการพลังงานของผู้บริโภคในเขตภาคกลาง เสริมสร้างความมั่นคงต่อเนื่องสอดคล้องตามนโยบายรัฐบาล ตลอดจนเป็นศูนย์กลางพลังงานของประเทศไทย
ขณะที่ น.ส.จิราพร กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทคาดหวังปริมาณการเติมน้ำมันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 64 จะปรับตัวดีขึ้น จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มกลับมาดีขึ้น หลังมีการทยอยฉีดวัคซีน และการดำเนินมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ รวมถึงคนไทยเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมการท่องเที่ยว ก็ส่งผลดีต่อการใช้น้ำมัน
ทั้งนี้ บริษัทได้ปรับเพิ่มปริมาณการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งที่คลังน้ำมันและสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ทั่วประเทศ และปรับเวลาเปิด-ปิดคลังเพื่อให้สถานีบริการน้ำมัน PTT Station ทุกแห่งมีน้ำมันให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน