(เพิ่มเติม) DEMCO เผยพันธมิตร 6-7 รายสนใจซื้อหุ้น PP/รอประมูลงานใหม่ 8-9 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 24, 2007 16:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นางประพีร์ ปุ้ยพันธวงศ์ ประธานกรรมการ บมจ.เด็มโก้(DEMCO) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีพันธมิตร 6-7 รายแสดงความสนใจที่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนในส่วนที่บริษัทจัดสรรขายให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP) 60 ล้านหุ้น จากจำนวนหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมด 113 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นนักลงทุนในประเทศทั้งหมด รวมทั้งกองทุนรวมในประเทศ คาดว่าจะได้ข้อสรุปการขายหุ้น PP ภายในเดือน ต.ค.นี้ หลังจากที่จะขอมติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 26 ก.ย.นี้ 
"การเลือกพันธมิตรเราคงต้องดูข้อเสนอของเขาด้วย โดยเราให้หน้าที่กับบล.เอเชียพลัสในการหาพันธมิตรให้เรา ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการพูดคุยกันบ้าง และเราอาจจะเลือกเพียง 2-3 รายก็ได้ "นางประพีร์ กล่าว
บริษัทต้องการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมงานเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้บริษัทสามารถเข้ารับงานเสาโครงเหล็กสำหรับงานก่อสร้างสายส่งแรงสูง 500KV ซึ่งเป็นตลาดใหญ่และมีการแข่งขันสูง จึงจำเป็นต้องมีผู้ชำนาญในงานดังกล่าวเข้ามาร่วม ส่วนเงินขายหุ้นเพิ่มทุนให้ PP ก็จะนำไปซื้อเครื่องจักรใหม่ เพื่อรองรับงานดังกล่าว และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
"การเพิ่มทุนดังกล่าว จะทำให้บริษัทฐานะการเงินเราแข็งแกร่ง และทำให้ทุนเราเพิ่มขึ้นจนเรามีโอกาสที่จะย้ายจากตลาด mai ไปอยู่ที่ตลาดหลักทรัพย์ได้ (SET) แต่ตรงนี้เรายังต้องขอดูก่อน" นางประพีร์กล่าว
สำหรับผลประกอบการในปีนี้ นางประพีร์ คาดว่าจะมีรายได้ 2 พันล้านบาท โดยขณะนี้รับรู้รายได้จากงานในมือไปแล้ว 1.8 พันล้านบาท
DEMCO ตั้งเป้าว่าในสิ้นปี 50 จะรักษาระดับงานในมือไว้ที่ 2 พันล้านบาท โดยนับจากไตรมาส 4/50 ต่อเนื่องถึงปีหน้าบริษัทเตรียมเข้าร่วมประมูลงานใหม่รวมมูลค่า 8-9 พันล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นงานวางระบบไฟฟ้าและวางท่อไฟฟ้า ซึ่งในจำนวนนี้จำเป็นงานที่รองรับโรงไฟฟ้า IPP และ SPP ประมาณ 500 ล้านบาท ที่บริษัทคาดหวังไว้ค่อนข้างมากว่าจะชนะประมูล
ส่วนในปี 51 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตจากปีนี้ประมาณ 20% เป็น 2.2 พันล้านบาท
นางประพีร์ กล่าวว่า ในอนาคตอีก 2-3 ปีข้างหน้าบริษัทคงจะมีโอกาสได้ออกไปรับงานต่างประเทศเพื่อขยายฐานรายได้ โดยบริษัทสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลงานสายส่งและสถานีไฟฟ้าในลาว , กัมพูชา และประเทศในแถบภูมิภาคนี้ โดยอาจร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่น หรือบริษัทอื่น หรือบางงานอาจไปประมูลเอง
ปัจจุบัน บริษัทยังคงสัดส่วนรับงานจากภาครัฐ 60% และ ภาคเอกชน 40% ทั้งนี้ ธุรกิจของบริษัทไมใด้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมือง เพราะงานส่วนใหญ่เน้นที่กลุ่มพลังงานและไฟฟ้า ซึ่งที่ผ่านมายังมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เตรียมรับมือปัญหาราคาเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยการล็อกราคาเหล็กก่อนเข้าประมูลงาน ทำให้บริษัทไม่ได้รับความเสี่ยงในจุดนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ