นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส (RS) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมปรับขึ้นเป้ารายได้ปี 64 ในช่วงครึ่งปีหลัง จากเป้าหมายเดิมที่ 5,700 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์จากกัญชงและกัญชา 8 รายการ ที่คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ 600-700 ล้านบาท
ทั้งนี้ การรับรู้รายได้จากผลิตภัณฑ์กัญชงและกัญชาคาดจะมีประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี แบ่งเป็นแบรนด์ S.O.M. (เอสโอเอ็ม) จำนวน 4 SKU ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Food Supplement และกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม คาดรายได้ประมาณ 800 ล้านบาท/ปี แบรนด์ well u จำนวน 2 SKU ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Food Supplement และกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม คาดรายได้ประมาณ 500 ล้านบาท/ปี และแบรนด์ CAMU C จำนวน 2 SKU คาดรายได้ ประมาณ 600 ล้านบาท/ปี
"เดิมเราไม่ได้เอารายได้จากผลิตภัณฑ์กัญชงและกัญชาเข้ามารวมกับเป้าหมายรายได้ แต่ด้วยภาพรวมตลาดที่ได้รับความนิยม และตลาดที่เปิดมากขึ้นด้วยการเปิดตัวสินค้าและจำหน่ายสินค้าจะเข้ามาช่วยหนุนการเติบโตของผลประกอบการเพิ่มในช่วงครึ่งปีหลังเราจึงมีโอกาสการปรับเป้าหมายการเติบโตขึ้นจากเดิม"นายสุรชัย กล่าว
วันนี้บริษัทได้เปิดตัวสินค้าแบรนด์ "well u" (เวลยู) แบรนด์นวัตกรรมเพื่อสุขภาพและความงาม ที่เฟ้นหาสารสกัดธรรมชาติ มาพัฒนากับนวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นสูงจากต่างประเทศ โดยจำหน่ายผ่าน Exclusive Distribution Network (EDN) หรือตัวแทนจำหน่ายเป็นหลัก พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวแรกออกสู่ตลาดคือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจนไดเปปไทด์ และไตรเปปไทด์ ชงดื่ม ตรา เวล ยู ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทฯ ลุยตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจนระดับพรีเมียม
พร้อมกันนี้บริษัทยังได้รุกตลาดเครื่องดื่ม Functional Drink ซึ่งถือเป็นเซ็กเมนต์ที่มีโอกาสเติบโตสูง โดยในปี 63 มีมูลค่าตลาดสูงเกือบ 10,000 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตกว่า 10% ในปีที่ผ่าน โดยบริษัทฯ เน้นจุดขายด้านสุขภาพ ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มเทรนด์ตลาดและความสนใจของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพในปัจจุบัน ภายใต้แบรนด์ "CAMU C" (คามู ซี) เครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมคามู คามู วิตามินซีสูง 200% และวิตามินบี 12 สูง
สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1/64 นายสุรชัย กล่าวว่า ยังคงมีทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ที่ได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีผลกระทบเล็กน้อยในธุรกิจมีเดียจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในช่วงต้นปี
ขณะที่ในปีนี้บริษัทยังสนใจการควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) อีก 2 ดีล มูลค่าลงทุนรวมประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นการเปิดตัวช่วงครึ่งปีแรก 1 ดีล และในครึ่งปีหลัง 1 ดีล แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยถึงรายละเอียดของธุรกิจที่จะเข้าซื้อได้ ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่บริษัทจะเข้าซื้อนั้นเข้ามาช่วยหนุนภาพรวมการเติบโตของบริษัทในอนาคต