นายริชาร์ด เดวิด ฮัน ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA) เปิดเผยว่า แนวโน้มรายได้ของบริษัทในปี 64 จะเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อนค่อนข้างมาก แม้ว่าในช่วงไตรมาส 1/64 จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้การผลิตและการขนส่งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ส่งมอบให้กับลูกค้าชะลอไปบ้าง แต่แนวโน้มออเดอร์จากลุกค้ายังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งจากกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมรถยนต์ และอุตสาหกรรมอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ ทำให้บริษัทมั่นใจว่ายอดขายในปีนี้จะมีทิศทางที่ดีขึ้นกว่าปีก่อน และมีโอกาสสูงกว่าปี 62
บริษัทยังคงได้อานิสงส์จากความต้องการใช้สินค้าไอทีต่างๆที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ซึ่งในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาดในปีก่อนส่งผลให้ความต้องการใช้คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนเพิ่มสูงขึ้นมาก อีกทั้งการเริ่มสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของหลายๆประเทศทั่วโลก ทำให้บริษัทมีโอกาสในการมีออเดอร์ผลิตชิ้นส่วนที่อยู่ในรถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์ชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าทิศทางธุรกิจหลังจากนี้จะเริ่มเห็นการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง หลังจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ผ่านพ้นไปแล้ว
ด้านอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในช่วงไตรมาส 1/64 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาส 4/63 ที่ผ่านมา หลังจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น จากความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงขึ้นเร็ว ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น และทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกทำให้มาร์จิ้นของบริษัทในช่วงไตรมาส 1/64 จะขยับเพิ่มขึ้นมา โดยทั้งปี 64 บริษัทประเมินว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ใกล้เคียงกับปีก่อนหรือสูงกว่าปีก่อนเล็กน้อย
สำหรับการลงทุนของบริษัทในปีนี้วางงบไว้ที่ 2.2-2.5 พันล้านบาท สูงขึ้นกว่าปีก่อนที่ใช้เงินลงทุนไป 1 พันล้านบาท โดยในปีนี้เงินลงทุนส่วนใหญ่จะนำไปใช้รองรับการสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต รวมถึงการรองรับกับการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ๆ เพื่อรองรับการพัฒนาสินค้าใหม่ของลูกค้า