นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.เป็นเจ้าภาพ ASEAN Exchanges CEOs Meeting ครั้งที่ 32 ที่จัดขึ้นในรูปแบบ virtual conference เมื่อวันที่ 30 มี.ค.64 ระหว่างตลาดหลักทรัพย์อาเซียน 7 แห่ง จาก 6 ประเทศ ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย ฮานอย โฮจิมินห์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย ในครั้งนี้เน้นหารือร่วมกันในประเด็นการพัฒนาตลาดทุนสู่ความยั่งยืน อันเป็นประเด็นที่ทุกประเทศให้ความสำคัญ รวมถึงแนวทางการทำงานร่วมกันในด้านต่างๆ เพื่อยกระดับตลาดหลักทรัพย์อาเซียนให้โดดเด่นในสายตาผู้ลงทุนทั่วโลก
"การประชุมครั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ไทยได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการขับเคลื่อนความยั่งยืนและการดำเนินงานโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, Governance: ESG) เพื่อสร้างการเติบโตอย่างสมดุลทั้งธุรกิจและสังคม (Balanced Growth) ซึ่งปัจจุบันตลาดทุนไทยโดดเด่นในระดับสากล นอกจากนี้ ผู้บริหารระดับสูงของตลาดหลักทรัพย์อาเซียนได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนาระบบนิเวศของตลาดหลักทรัพย์และการลงทุนไปสู่ความยั่งยืน พร้อมหารือถึงการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อพัฒนาตลาดทุนด้าน ESG นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงระหว่างกัน และการจัดงานสัมมนาร่วมกันอย่างต่อเนื่อง"นายภากร กล่าว
สำหรับการประชุม ASEAN Exchanges CEOs Meeting ประกอบด้วย ตลาดหลักทรัพย์อาเซียน 7 แห่ง จาก 6 ประเทศ ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย (Bursa Malaysia) ตลาดหลักทรัพย์ฮานอย (Hanoi Stock Exchange) ตลาดหลักทรัพย์ โฮจิมินห์ (Hochiminh Stock Exchange) ประเทศเวียดนาม ตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย (Indonesia Stock Exchange) ตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปปินส์ (Philippine Stock Exchange) ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (Singapore Exchange) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (The Stock Exchange of Thailand) อีกทั้งมี ตลาดหลักทรัพย์ย่างกุ้ง (Yangon Stock Exchange) ประเทศเมียนมา และตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (Cambodia Stock Exchange) เข้าร่วมการประชุมด้วย
นอกจากนี้ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา (4-8 มกราคม 2564) กลุ่มตลาดหลักทรัพย์อาเซียน ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์เครดิต สวิส จัดสัมมนาและโรดโชว์การลงทุน ในรูปแบบ virtual โดยได้เรียนเชิญผู้กำหนดนโยบายภาครัฐ ผู้บริหารระดับสูงจากภาคเอกชนในอาเซียน เพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดีมีผู้ลงทุนสถาบันเข้าร่วมกว่า 90 ราย และมีการประชุมรูปแบบ one-on-one รวมทั้งสิ้น 208 ครั้ง สะท้อนความสนใจและความเชื่อมั่นในสายตาผู้ลงทุนโลก