นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) เปิดเผยผลการสำรวจความเห็นสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุนได้สำรวจความเห็นจากนักวิเคราะห์และผู้จัดการการลงทุนในมุมมองการลงทุนปี 2564 จากผู้ร่วมให้ข้อมูล 23 บริษัท ผลสรุปว่า สมมุติฐานหลักของผู้ตอบแบบสำรวจคาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 64 จะเติบโตเฉลี่ย 3.08% และราคาน้ำมันดิบตลาดโลก เฉลี่ย 58.39 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
การลงทุนในปี 64 จะได้รับผลบวกจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจะฟื้นตัวแรง 57% และปัจจัยด้านภาวะเศรษฐกิจโลกและไทย ขณะที่ผลโหวตของนักวิเคราะห์พบว่าแนวโน้มสถานการณ์โควิด 19 พลิกจากเคยเป็นปัจจัยลบสูงถึง 78% ในการสำรวจไตรมาสก่อน กลายมาเป็นบวกโดยมีผู้โหวต 56.52% ส่วนปัจจัยลบทางการเมืองภายในประเทศก็ลดจาก 74% ในครั้งก่อน เหลือ 65% ในครั้งนี้
นอกจากนั้น คาดว่าดัชนีหุ้นไทยในปีนี้ จะเป็นบวกเมื่อถึงสิ้นปี มีกรอบการเหวี่ยงในระดับ 1,479 ถึง 1,671 จุด และเมื่อถึงสิ้นปีจะปิดที่ 1,629 จุด สูงขึ้นราว 70 จุดจากคาดการณ์เมื่อต้นเดือน ม.ค.
แนะนำให้จัดพอร์ตโดยกระจายการลงทุน แบ่งเป็น
- เงินสด 12.05 %
- กองทุนตราสารหนี้ 11.90 %
- หุ้นหรือกองทุนหุ้นไทย 31.38 %
- หุ้นหรือกองทุนต่างประเทศ 28.95 %
- กองทุนอสังหา/REIT 10.33 %
- ทองคำ 4.90 %
สำหรับหุ้นเด่นแนะนำ BBL BDMS CPALL KBANK PTT และ PTTGC
ส่วนหุ้นที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ หุ้นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เคยวิ่งขึ้นในปีก่อนมากกว่า 1,000 % และหุ้นบัตรเครดิตบางรายที่ราคาเกินมูลค่าปัจจัยพื้นฐานไปมาก
นอกจากนั้น นักวิเคราะห์ยังมีคำแนะนำไปถึงภาครัฐ ควรเร่งนโยบายที่มีผลบวกต่อภาวะเศรษฐกิจ ทั้งการช่วยเหลือประชาชน เช่น ลดภาษีเงินได้ การเร่งกระจายวัคซีน การลงทุนภาครัฐ และเร่งช่วยเหลือภาคธุรกิจ