นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ซิกแซกขึ้น และมีโอกาสที่จะขึ้นทดสอบระดับ 1,600 จุดอีกครั้ง ซึ่งการเคลื่อนไหวของดัชนีฯน่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ที่ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนบวกราว 1% จากความเชื่อมั่นการฟื้นตัวเศรษฐกิจ หลังจากที่ตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐฯ และยุโรปออกมาดีกว่าคาด นอกจากนี้ยังมีแผนการลงทุนครั้งใหญ่ของสหรัฐฯมาช่วยหนุนอีก
ประกอบกับบ้านเราก็จะมีการทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มในไตรมาส 2/64 อย่างคนละครึ่ง เฟส 3 และเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 อย่างไรก็ดี วันนี้หลายตลาดต่างประเทศจะปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday และตลาดในยุโรปก็จะปิดทำการต่ออีกในวันจันทร์หน้าเนื่องในวันอีสเตอร์ พร้อมให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯวันนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะออกมาดีขึ้น และติดตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐฯ รวมถึงทิศทางการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯด้วย
พร้อมให้แนวรับ 1,590-1,585 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600-1,605 ถัดไป 1,620 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (1 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,153.21 จุด เพิ่มขึ้น 171.66 จุด (+0.52%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,019.87 จุด เพิ่มขึ้น 46.98 จุด (+1.18%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,480.11 จุด เพิ่มขึ้น 233.23 จุด (+1.76%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 6.30 จุด และดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 315.79 ส่วนตลาดหุ้นหลายแห่งในภูมิภาคเอเชียปิดทำการวันนี้เนื่องในวัน Good Friday ซึ่งได้แก่ ตลาดหุ้นฮ่องกง, อินเดีย, ออสเตรเลีย และสิงคโปร์
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 เม.ย.) 1,595.12 จุด เพิ่มขึ้น 7.91 จุด (+0.50%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,159.45 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 เม.ย.64
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (1 เม.ย.) ปิด 61.45 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 2.29 ดอลลาร์ หรือ 3.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 เม.ย.) อยู่ที่ 2.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.21 แข็งค่าจากวานนี้ตามทิศทางตลาด จับตาตัวเลขจ้างงานฯสหรัฐคืนนี้
- ธปท.เผยผลสำรวจผลกระทบโควิด-19 ต่อภาคเอกชนเดือน มี.ค. พบภาคที่ไม่ใช่การผลิตฟื้นตัวช้า จะกลับมาดีขึ้นเท่าช่วงก่อนโควิดได้ครึ่งแรกปี 65 พบธุรกิจส่วนใหญ่ ต้องการความช่วยเหลือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ พิษโควิดยังฉุดให้การจัดเก็บรายได้ภาครัฐ 5 เดือนลดลง ต่ำกว่าประมาณการ 11.1% โดย 3 กรมภาษีรีดภาษีต่ำเป้าหลุดลุ่ย แถมรัฐวิสาหกิจขาดทุนนำส่งรายได้ลดลง หวั่นกระทบต่อการปิดหีบงบประมาณปี 64 รัฐอาจต้องกู้เงินเพิ่มเติม ด้านคลังจ่อปรับลดประมาณการรายได้ใหม่
- ประธานชมรมธุรกิจบัตรเครดิตชี้ โควิดกระแทกธุรกิจบัตรเครดิต ปี'63 ยอดใช้จ่ายติดลบ 19% คาดครึ่งปีหลังเริ่มฟื้นตัวได้ บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ปรับกลยุทธ์ตอบโจทย์พฤติกรรมนิวนอร์มอล ลูกค้าพรีเมียม ตั้งเป้ายอดรูดบัตรโต 9% เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ 5%
- กพช.เดินหน้าเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2 ส่งเสริมนำเข้า LNG มอบ "กกพ." จัดทำรายละเอียด คาดเปิดให้นำเข้าได้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ สำหรับผู้นำเข้ารายใหม่ พร้อมยุบโครงการ FSRU กฟผ.ปรับให้ไปร่วมทุนกับ ปตท.ที่คลัง LNG หนองแฟบแทน พร้อมเคาะโครงสร้างค่าไฟใหม่ ปี 64-68 ให้ กกพ.ไปจัดทำรายละเอียด
- ปิดโครงการคนละครึ่งเฟส 2 เงินสะพัด 1 แสนล้านบาท ด้านศูนย์วิจัยกสิกรประเมินหนี้ครัวเรือนปี 2564 ยังมีแนวโน้มสูงต่อเนื่องในกรอบ 89-91% ต่อจีดีพี 'ธนวรรธน์' คาดสงกรานต์ปีนี้ไม่คึกคัก
*หุ้นเด่นวันนี้
- SIS (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 28 บาท Outlook รายได้ปี 64 สดใส ผู้บริหารประเมินยอดขายอุปกรณ์มือถือแบรนด์ Xiaomi เติบโตโดดเด่นใน H1/64 ส่วน H2/64 จะมีการเปิดตัวอุปกรณ์มือถือ Flagship ของหลายค่ายต่างๆที่ SIS เป็นตัวแทนจำหน่ายช่วยหนุนยอดขาย ส่วนธุรกิจกลุ่ม Value Added ทั้ง Cybersecurities และ Cloud เติบโตต่อเนื่องเป็นบวกต่อรายได้รวมและช่วยยกระดับอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ย พร้อมประเมินกำไรสุทธิ ปี 64-65 ที่ 774 ลบ และ 884 ลบ. เติบโตต่อเนื่อง +30%YoY, +14YoY ตามลำดับ
- GLOBAL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 23.50 บาท ระยะสั้นคาดกำไร Q1/64 โตโดดเด่นจาก SSSG ที่พลิกเป็นบวก High Single Digit และเป็น High Season ของธุรกิจ รวมถึงได้ประโยชน์จากราคาเหล็กที่สูง พร้อมคาดกำไรปี 2564 +32% Y-Y และอาจมี Upside จาก Margin ที่มีโอกาสสูงกว่าคาด ราคาหุ้นมีโอกาส Outperform ตาม DOHOME ซึ่งแนวโน้มการเติบโตใกล้เคียงกัน
- INSET (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ"เป้าเฉลี่ย IAA Consensus 4.40 บาท ผลการดำเนินงานในปี 63 มีรายได้รวม 1,504 ล้านบาท +23%YoY ส่วนปี 64 วางเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 15-20% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ โดยได้รับแรงหนุนมาจากความต้องการ WFH มากขึ้น ส่งผลให้งานขยาย Data Center ของผู้ประกอบการหรือองค์การต่างๆ และงานระบบโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม 5G มีอัตราการเติบโตสูง โดยในปีนี้จะมีโอกาสได้รับงานประมูลอย่างต่อเนื่องช่วยเติม Backlog ปัจจุบัน 2,460 ล้านบาท ทยอยรับรู้ได้ถึงปี 65