นายสงกรานต์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ชาญอิสสระ ดิเวล็อปเมนท์(CI)เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนขยายกองทุนรวมอสังหาริมทรพัย์บางกอก (BKKCP)อีก 1 พันล้านบาท หรือเป็นเท่าตัวจากขนาดกองทุนในปัจจุบัน 1 พันล้านบาท โดยจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวในช่วงปลายปีนี้ รวมถึงหารือกับผู้ถือหุ้นด้วย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปลายปีนี้
ปัจจุบัน กองทุนอสังหาริมทรัพย์ BKKCP มีสินทรัพย์ คือ ตึกชาญอิสสระ 1 และ ตึกชาญอิสสระ 2 และได้ปรับราคาเช่าสูงขึ้น 20% เนื่องจากมีจำนวนลูกค้าที่มาเช่าเพิ่มขึ้นทั้งสองอาคาร
"ที่ผ่านมา มีคนมาจองพื้นที่ตึกชาญอิสสระ 1 และ 2 เพิ่มขึ้น ซึ่งตรงนี้จะส่งผลดีต่อผู้ถือหน่วยกองทุนที่จะได้รับผลประโยชน์ ทำให้เราเล็งที่เพิ่มขนาดกองทุน แต่ตอนนี้เราคงต้องดูว่าจะนำสินทรัพย์ส่วนไหนเข้ามาในกองทุนและก็จะนำเรื่องนี้เข้าบอร์ดในช่วงปลายปีนี้เพื่อหารือกัน" นายสงกรานต์ กล่าว
ในปี 51 บริษัทคาดใช้งบลงทุนในการซื้อที่ดินจำนวน 400-500 ล้านบาท จากปี 50 ใช้ไปแล้ว 600 ล้านบาท เพื่อเตรียมที่ดินรองรับการขยายโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ดินในย่านหัวหิน-ชะอำ และที่ภูเก็ต โดยในหัวหิน-ชะอำ บริษัทมีที่ดินเปล่าอยู่แล้ว 4 ไร่ และกำลังมองหาซื้อเพิ่มเติม ส่วนที่ภูเก็ตอยู่ระหว่างการซื้อที่ดินใหม่ รวมถึงจะซื้อที่ดินใหม่ย่านอื่นเพิ่มด้วย
นายสงกรานต์ คาดว่า ในปี 50 รายได้และกำไรสุทธิของบริษัทจะเติบโตราว 10% จากปี 49 ที่มีรายได้ 778.76 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 53.63 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทรับรู้รายได้หลักมาจากโครงการศรีพันวา เฟส 2 ซึ่งรับรู้แล้ว 1.3 พันล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรก และจะรับรู้รายได้อีก 700 ล้านบาทในครึ่งปีหลัง
และได้ทยอยเปิดโครงการศรีพันวา เฟส 3 ต่อเนื่อง รวมทั้ง ยังมีการรับรู้จากโครงการบ้านอิสระ พระราม 9 ที่จะสามารถโอนได้หมดในไตรมาส 4/50 และจากโครงการสุขุมวิทบางส่วน
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--