บลจ.ยูโอบี เปิดตัว“กองทุนเปิด ยูโอบี ซีเล็ค บาสเก็ต อินคัม 1"(UOB Select Basket Income/1 Fund)ชูผลตอบแทนที่อ้างอิงกับดัชนีที่ใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์ Carry Trade เสนอขายเป็นครั้งแรกระหว่างวันที่ 20 ก.ย. — 1 ต.ค.2550 นี้ มูลค่าโครงการ 3 พันล้านบาท อายุ 3 ปี โดยกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ เริ่มต้น 10,000 บาท
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ยูโอบี (ไทย) เปิดเผยว่า กองทุนดังกล่าวให้ผลตอบแทนที่อ้างอิงกับดัชนี Income FX และดัชนี Income Asia 2.0 ที่ใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์ Carry Trade คือ การกู้ยืมเงินของประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำไปฝากเงินในประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า
กองทุนนี้จะเน้นลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง ซึ่งออกโดยธนาคารพาณิชย์ที่มีความมั่นคงสูง โดยผู้ออกตราสารจะจ่ายเงินต้นคืน 100% และจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับผลตอบแทนของดัชนี Income FX และดัชนี Income Asia 2.0 ณ สิ้นปีที่ 3 เพื่อโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น โดยทั้ง 2 ดัชนีเป็นหนึ่งในดัชนีกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมแพร่หลายสำหรับนักลงทุนสถาบันทั่วโลก กลุ่มหลักทรัพย์ที่ใช้ในการสร้างดัชนี คือ อัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเริ่มเผยแพร่ค่าดัชนีทุกวันใน Bloomberg
"เราจะเข้าไปซื้อตั๋ว P/N ของแบงก์ที่มีเรตติ้ง AA- ขึ้นไป ซึ่งมีทั้งแบงก์ไทยและต่างชาติ เราจะเลือกซื้อจาก 4 แบงก์ใน 5 แห่งที่เราคัดมา เราซื้อมาแล้วเรา Fixed ไว้เลยตลอด 3 ปี การลงทุนแบบนี้อย่างน้อยเงินต้นก็ยังอยู่ ส่วนผลตอบแทนไม่น่าจะต่ำกว่า 10%" นายวนากล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์ที่มีได้รับการจัดอันดับ AA- ขึ้นไป ได้แก่ ธ.กรุงเทพ (BBL) ธ.กรุงไทย(KTB) ธ.กสิกรไทย(KBANK) ธ.ไทยพาณิชย์ (SCB) ธ.ยูโอบี
อย่างไรก็ดี กลยุทธ์ Carry Trade เป็นกลยุทธ์ที่สามารถสร้างกำไรได้จากอัตราแลกเปลี่ยนและส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย สำหรับดัชนี IncomeFX ทำ Carry Trade กับเงินสกุลของประเทศในกลุ่ม G10 โดยเน้นสร้างผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง อัตราแลกเปลี่ยนมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ในทางกลับกันประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำจะมีแนวโน้มที่ค่าเงินจะอ่อนค่าลง โดยในอดีตที่ผ่านมา เงินทุนในประเทศที่พัฒนาแล้วที่ให้ดอกเบี้ยต่ำไหลไปยังประเทศที่พัฒนาแล้วที่ให้ดอกเบี้ยสูงซึ่งสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนในการสร้างโอกาสทำกำไรได้เพิ่มขึ้น
ส่วนดัชนี IncomeAsia 2.0 นั้น จะช่วยกระจายความเสี่ยงกับ IncomeFX ได้ โดยดัชนี IncomeAsia 2.0 ทำ Carry Trade กับเงินสกุลของประเทศที่กำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย ผลตอบแทนของ IncomeAsia2.0 ส่วนใหญ่มาจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากดัชนีเลือกลงทุนในสกุลเงินของประเทศเอเชีย ซึ่งส่วนใหญ่มีแนวโน้มเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน
ทั้งนี้ การอ้างอิงผลตอบแทนจากทั้ง 2 ดัชนีจะช่วยให้ผลตอบแทนมีเสถียรภาพและเป็นการกระจายความเสี่ยง ซึ่งทำให้ความผันผวนโดยรวมต่ำลง และเพิ่มผลตอบแทนของการลงทุนในดัชนี IncomeFX บวกกับดัชนี IncomeAsia 2.0
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--