ไทยแลนด์โฟกัส 2007 วันที่ 2 นักลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจแนวนโยบายเศรษฐกิจของ 2 พรรคการเมืองที่มองว่ามีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลค่อนข้างสูง รวมทั้งทิศทางของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทยในอนาคต ขณะที่บจ.ที่กลุ่มนักลงทุนต่างประเทศสนใจเข้าสอบถามข้อมูลเชิงลึก ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มแบงก์ โทรคมนาคม อสังหาริมทรัพย์ และ บริการทางการแพทย์
นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บล.ภัทร กล่าวว่า การนำเสนอข้อมูลด้านแนวนโยบายเศรษฐกิจของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และว่าที่เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ทำให้นักลงทุนต่างประเทศมองเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการสำรอง 30% การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ การเตรียมตัวเรื่องพลังงานใหม่ เช่น นิวเคลียร์ รวมทั้งการเพิ่มศักยภาการแข่งขันในด้านอุตสาหกรรม และการปรับปรุงระบบโลจิสติกส์
แต่สิ่งที่จะต้องติดตามต่อไปคือ การนำแนวนโยบายต่าง ๆ ไปปฏิบัติเป็นรูปธรรมจะทำได้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงเสถียรภาพของรัฐบาลใหม่ที่คาดว่าจะเป็นรัฐบาลผสมจะเป็นอย่างไร
"ไม่ว่าใครจะมา ก็มีแนวคิดจะดำเนินการอย่างนี้ แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนว่าจะปฏิบัติเป็นรูปธรรมได้มกาน้อยแค่ไหน ยังต้องติดตามต่อไป รวมถึงรอดูว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีเสถียรภาพหรือไม่"นายศุภวุฒิ กล่าว
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า ตลท.กำลังพิจารณาว่าอาจจะจัดการสัมมนาเพื่อเปิดโอกาสให้ทีมเศรษฐกิจของแต่ละพรรคการเมืองเข้ามาร่วมให้ข้อมูลกับนักลงทุนเป็นการทั่วไปในเร็ว ๆนี้ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในช่วงปลายปี
ทั้งนี้ การจัดงานไทยแลนด์โฟกัสในช่วง 2 วันนี้ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนต่างประเทศจากกองทุนรวม สหรัฐ ยุโรป เอเชีย รวมทั้งญี่ปุ่น โดยข้อมูลที่นำเสนอกับนักลงทุนมีความหลากหลายและลงลึกหลายแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี มุมมองของพรรคการเมือง
รวมทั้งข้อมูลด้านธุรกิจของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ โทรคมนาคม และอนิเมชั่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่นักลงทุนต้องการทราบข้อมูล โดยจะมีการพบปะระหว่างนักลงทุนกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(SET) 63 แห่ง ซึ่งมีการนัดพบประมาณ 1 พันรายการ และมีบริษัทจดทะเบียนในตลาด mai อีก 3 ราย รวมมูลค่ามาร์เก็ตแคปประมาณ 70% ของทั้งตลาดหลักทรัพย์
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--