นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.โออิชิ กรุ๊ป (OISHI) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาและพัฒนาเครื่องดื่มและสินค้าใหม่ๆ ในเครืออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเครื่องดื่มและสินค้าที่ใช้ส่วนผสมของกัญชง ซึ่งเป็นการศึกษาและพัฒนาจากกลุ่มสินค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่การวางแผนนำออกมาจำหน่ายอย่างเป็นทางการยังคงต้องรอความชัดเจนในเรื่องกฎหมายและการอนุญาตของหน่วยงานภาครัฐออกมาชัดเจนอีกครั้ง
ด้านงบลงทุนของบริษัทยังคงติดตามสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ในเบื้องต้นหากโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดต่อเนื่อง บริษัทจะใช้งบลงทุนเท่ากับปีก่อนราว 300-400 ล้านบาท สำหรับการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของเครื่องจักรในโรงงานของบริษัท
แต่หากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศคลี่คลายลงชัดเจน และไม่มีแนวโน้มในการกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งแล้ว อาจจะใช้งบลงทุนได้ถึงสูงถึง 500-600 ล้านบาท เพื่อกลับมาขยายสาขาร้านอาหารของบริษัทเพิ่มมากขึ้น หลังจากชะลอการขยายธุรกิจไปในช่วงปีก่อน เพราะธุรกิจร้านอาหารถือว่าเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดหลังจากโควิด-19 แพร่ระบาดมาต่อเนื่อง
นางนงนุช กล่าวอีกว่า ยอดขายในปี 63/64 (1 ต.ค. 63 - 30 ก.ย. 64) ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะเป็นอย่างไร เพราะในช่วงเริ่มต้นของงวดปี 63/64 ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยปกติในช่วงเดือนธ.ค.63- ม.ค. 64 ถือเป็นไฮซีซั่นของบริษัท จึงกระทบทั้งธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม
และการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนเม.ย. 64 จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทเช่นเดียวกัน และเป็นช่วงเทศกาลที่ปกติจะมียอดขายทั้งเครื่องดื่มและการเข้าใช้บริการร้านอาหารมากอยู่แล้ว แต่การที่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 เกิดขึ้นในครั้งนี้ทำให้บริษัทมีความกังวลว่ายอดขายจะกลับมาชะลอตัวอีกครั้ง ทำให้บริษัทประเมินได้ยากจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนอาจจะส่งผลให้ยอดขายมีความผันผวน
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของกลยุทธ์ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ยังมีอยู่ต่อเนื่องนั้น บริษัทได้เตรียมความพร้อมทั้งธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยในส่วนของธุรกิจร้านอาหารได้เตรียมความพร้อมเรื่องของความสะอาดปลอดภัยภายในร้าน และความพร้อมของพนักงานที่สามารถรองรับการให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มที่ ทั้งการบริการทานอาหารภายในร้านและการซื้อกลับบ้าน โดยที่มีการปรับพื้นที่ของร้านอาหารบางส่วนมาเป็นพื้นที่ขายอาหารเพื่อซื้อกลับบ้าน และการเพิ่มบริการเดลิเวอร์ลี่ในทุกสาขา เพื่อเป็นทางเลือกในการอำนวบความสะดวกให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้าที่ต้องการทานอาหารในเครือของ OISHI ยังสามารถเลือกใช้บริการได้ในหลากหลายช่องทาง และทำให้บริษัทไม่เสียโอกาสในการขายอาหารในร้านด้วย
ส่วนธุรกิจเครื่องดื่มได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านระบบซัพพลายเชนในการผลิตสินค้ารองรับการขายสินค้า ซึ่งจะมีสินค้าเครื่องดื่มของ OISHI ทุกประเภทพร้อมให้ลูกค้าเลือกซื้อตลอดเวลา ด้วยการวางขายเครื่องดื่มที่อยู่บนชั้นวางในร้านค้าต่างๆได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ให้เสียโอกาสไปให้กับคู่แข่งในตลาด และจะนำเครื่องดื่มในเครือ OISHI เข้าไปขายในพื้นที่ห้างสรรพสินค้ามากขึ้น เพื่อทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น และสามารถเลือกซื้อเครื่องดื่มในหลากหลายช่องทางพร้อมการทำแคมเปญการตลาดในช่วงซัมเมอร์ เพื่อกระตุ้นการซื้อเครื่องดื่มมากขึ้น โดยที่บริษัทยังคงตั้งเป้ารักษาการเป็นผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจชาพร้อมดื่มที่มีส่วนแบ่งตลาด (Market Share) อันดับ 1 ที่ 48.6%