หุ้น IRPC ราคาขยับขึ้น 2.55% มาอยู่ที่ 4.02 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,077.58 ล้านบาท เมื่อเวลา 15.45 น. โดยเปิดตลาดที่ 3.94 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 4.06 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 3.90 บาท
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"เก็งกำไร"หุ้น บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) ราคาเหมาะสม 4.00 บาท เชิงกลยุทธ์มองว่าหากราคาน้ำมันมีเสถียรภาพ และภาวะตลาดเป็นปกติ นักลงทุนสามารถหาจังหวะเก็งกำไร ระยะสั้นเพื่อเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 1/64 ที่โดดเด่น
นอกจากนี้ หุ้นยังมีสตอรี่บวกเพิ่มเติมจากโอกาสการถูกเข้าคำนวณในดัชนี SET50 รอบครึ่งปีหลัง (H2/64) (ประกาศรายชื่อหุ้นกลางเดือนมิ.ย.) เนื่องจากเมื่อพิจารณาจากราคาหุ้นตามเกณฑ์คำนวณ Market Cap. 3 เดือนย้อนหลัง (มี.ค.-พ.ค.) มีโอกาสสูงกว่า Market Cap. เดือนก.ย.-พ.ย. มาก และ IRPC มีสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float) 52.4% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้น Big Cap. ทั่วไป ทำให้ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนวิธีคิดคำนวณเกณฑ์ Market Cap. Adjusted Free float
ทั้งนี้ คาดไตรมาส 1/64 มีกำไรสุทธิ 4.6 พันล้านบาท เติบโต +186% QoQ และพลิกจากขาดทุน 8.9 พันล้านบาทในไตรมาส 1/63 โดยแม้คาดอัตราการกลั่นไตรมาส 1/64 จะลดลงมาอยู่ที่ 87% (-5% QoQ, -1% YoY) เพราะเป็นช่วงปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นหน่วย ADU-1 ตั้งแต่เดือนมี.ค. รวมทั้งต้นทุนน้ำมัน (Crude Premium) สูงขึ้น อ้างอิง Arab light OSP เป็น Premium US$0.8/bbl เทียบกับ ไตรมาส 4/63 ที่เป็น Discount US$0.5/bbl
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการที่โดดเด่นมาจากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจาก US$49.8/bbl ณ ช่วงสิ้นปี 2563 เป็น US$64.4/bbl ณ สิ้นไตรมาส 1/64 ส่งผลให้คาดว่าจะมีกำไรสต็อกน้ำมัน 5.1 พันล้านบาท นอกจากนี้ ประเมินว่าอัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจหลัก (Market GIM) จะเพิ่มขึ้นเป็น US$13.0/bbl (+18% QoQ, +91% YoY) ซึ่งเป็นผลจากส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ PP-Naphtha และ ABS-Naphtha ที่เฉลี่ย US$808/ตัน (+10% QoQ, +47% YoY) และ US$1,770/ตัน (+10% QoQ, +95% YoY) ตามลำดับ และส่วนต่างราคาน้ำมันหล่อลื่นปรับตัวขึ้น โดย 500SN-FO อยู่ที่ US$777/ตัน (+64% QoQ, +110% YoY) ขณะที่นับเฉพาะกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ไม่รวมสต็อกน้ำมันคาดทำได้ 644 ล้านบาท เติบโต +126% QoQ และพลิกจากขาดทุน 2.0 พันล้านบาท