ภาวะตลาดหุ้นไทยหุ้นเช้าปิดลบ 0.57 จุด พลังงานถูกขายทำกำไร แบงก์-หลักทรัพย์ขยับขึ้น

          ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 834.61 จุด ลดลง 0.57 จุด(-0.07%) มูลค่าการซื้อขาย 8,727 ล้านบาท 
          การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีเปิดตลาดปรับตัวขึ้นในแดนบวกช่วงสั้น โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 837.36 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 831.48 จุด
          นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้แกว่งตัวแคบ หุ้นพลังงานถูกขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลงติดต่อกัน 4-5 วันทำการ ตอนนี้หลุด 80 เหรียญ/บาร์เรลลงมา ทำให้ดึงดัชนีโดยรวมพักตัวไปด้วย ในขณะที่กลุ่มแบงก์เริ่มเห็นมีแรงซื้อเข้ามา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคาดการณ์ว่ามีโอกาสมากขึ้นที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปปลายเดือนต.ค.นี้ 
          ส่วนบ้านเราทิศทางดอกเบี้ยปรับลดลงได้อีกเล็กน้อย น่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการขยายสินเชื่อ กระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหา NPL ด้วย ทำให้กลุ่มแบงก์จะได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะแบงก์เอกชนขนาดใหญ่ที่มีการกันสำรองพร้อมแล้ว ขณะที่กลุ่มหลักทรัพย์มีการเข้ามาเก็งกำไรอย่างชัดเจน เช่น KEST และ ASP 
          ขณะนี้ยังมีลุ้นว่าทิศทางตลาดจะแกว่งขึ้นต่อหลังจากที่สามารถยืนเหนือ 820 จุดได้อย่างมั่นคง แต่บ่ายวันนี้ดัชนีน่าจะแกว่งตัวออกด้านข้าง เพราะมีกลุ่มพลังงานถ่วงอยู่คงจะไปไหนได้ไม่ไกล ดัชนียังคงติดอยู่ที่ยอดเดิม 842 จุด แนวรับ 828 จุด 
          ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ 
          PTT   มูลค่าการซื้อขาย 758.36 ล้านบาท ปิดที่ 328.00 บาท ลดลง  2.00 บาท
          PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 734.21 ล้านบาท ปิดที่ 136.00 บาท ลดลง  1.00 บาท
          TTA   มูลค่าการซื้อขาย 594.00 ล้านบาท ปิดที่  57.50 บาท ลดลง  1.00 บาท 
          TOP   มูลค่าการซื้อขาย 465.20 ล้านบาท ปิดที่  85.00 บาท ลดลง  0.50 บาท
          KEST  มูลค่าการซื้อขาย 423.49 ล้านบาท ปิดที่  24.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท