(เพิ่มเติม) ดัชนี SET ร่วง 10 จุดหลังแห่ขายจากความสับสนเนื้อหาในพ.ร.ฎ.VAT

          ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ร่วงลงไปกว่า 10 จุด หลังจากผันผวนในช่วงต้น โดยดัชนี SET ร่วงต่ำกว่า 800 จุดมาอยู่ที่ 799.97 จุด ปรับลดลง 10.05 จุด หรือ -1.24% เมื่อ 11.36 น. แต่หลังจากนั้นดีดตัวกลับขึ้นมาเล็กน้อย
          แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ดัชนี SET ดิ่งลงอย่างกระทันหัน สืบเนื่องจากความสับสนของข่าวที่เกิดขึ้นในห้องค้าหลักทรัพย์เกี่ยวกับข้อความในพระราชกฤษฎีกาที่ออกมาเผยแพร่เมื่อ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการปรับปรุงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ทำให้นักวิเคราะห์บางคนเกิดความเข้าใจผิดว่าทางการจะลดภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)เป็น 6.3% จาก 7% ในต.ค.นี้และจะปรับเพิ่มเป็น 9% ในต.ค.51 จากนั้นได้กระจายข่าวออกไปและสร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุนจนเกิดแรงเทขายเป็นจำนวนมาก
          อย่างไรก็ตาม ในที่สุดมีการแก้ไขความเข้าใจในเนื้อหาของพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าวว่าเป็นการออกตามมติครม.ก่อนหน้านี้ที่ให้ขยายเวลาการใช้อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 7% ไปจนถึง ต.ค.51 เท่านั้น รัฐบาลไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวแต่อย่างใด ทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามา 
          ขณะที่โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวยืนยันกับ"อินโฟเควสท์"ว่า เรื่องดังกล่าวน่าจะเป็นเพียงความสับสนจากความเข้าใจผิด เพราะรัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะเปลี่ยนอัตรา VAT ในขณะนี้
          แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ อีกรายหนึ่งระบุว่า สาเหตุหนึ่งที่ดัชนีตลาดหุ้นร่วงลงแรงในเช้านี้ เนื่องจากมีแรงเทขายหุ้น PTT เข้ามาเป็นจำนวนมาก ฉุดให้ดัชนีโดยรวมลดลง แต่ยังพบว่ามีแรงซื้อผ่านโบรกเกอร์ขนาดใหญ่เข้ามา
          ขณะที่ นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.กสิกรไทย มองว่า ตลาดหุ้นไทยปรับลงกว่า 10 จุด เป็นผลจากที่ตลาดมีแรง take profit ตั้งแต่เมื่อวานนี้ และอาจจะเป็นเพราะทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)ออกมาพูดตัวเลขส่งออกเดือนส.ค.ที่การเติบโตยังคงชะลอตัวต่อเนื่องจากเดือนก.ค.ซึ่งถือเป็นปัจจัยลบเข้ามา 
          ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศก็ขายทำกำไร เพื่อรอดูตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในคืนนี้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ดัชนีตลาดหุ้นจึงร่วงลงมาค่อนข้างแรง และที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อตลอดเมื่อมีกำไรก็ขาย         
          ทั้งนี้ เมื่อเวลา 12.23 น.ดัชนีดีดกลับมายืนเหนือ 800 จุด โดยอยู่ที่ 802.42 จุด ลดลง 7.40 จุด (-0.91%) โดยดัชนีปรับตัวลงต่ำสุดที่ 799.24 จุด และปรับขึ้นสูงสุดที่ 812.50 จุด