บลจ.ยูโอบี เตรียมออกกองทุน FIF 2 กอง รวมมูลค่า 3.4 พันลบ.ก่อนสิ้นปี50

          บลจ.ยูโอบี (ไทย) เตรียมออกกองทุนเพื่อไปลงทุนในต่างประเทศ (FIF)อีก 2 กองทุนๆละ 1.7 พันล้านบาท มูลค่ารวม 3.4 พันล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ กระจายการลงทุนทั้งตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้ จากที่ออกขายแล้ว 13 กองทุน มูลค่าราว 1.7 หมื่นล้านบาท 
          นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ยูโอบี(ไทย) กล่าวว่า  ทั้งปี 50 บริษัทได้เปิดกองทุน FIF ทั้งหมด 15 กองทุนรวมมูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดี โดยเฉพาะกองทุนตราสารหนี้อายุ 6 เดือน ที่บริษัทออกเสนอขาย 9 กอง 
          "ปีนี้เราถือว่าทำได้ตามเป้าที่จะเพิ่มสินทรัพย์จำนวน 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งมาจากการออกกองทุน FIF ทั้งหมด ปีหน้าเราก็ยังเน้นกองทุน FIF " นายวนากล่าว 
          รายงานข่าวจากสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เปิดเผยถึงข้อมูลส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ของกองทุนรวม FIF  ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทั้งระบบ ในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ทั้งสิ้น 55,428.22 ล้านบาท คิดเป็นเงินทุนใหม่ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 10,627.64 ล้านบาท โดย บลจ.ยูโอบี (ไทย) เป็นบริษัทที่มีมาร์เกตแชร์สูงที่สุด
          ส่วนกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% นั้น นายวนา กล่าวว่า ถือว่าเป็นการปรับลดมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ประเมินจะปรับลด 0.25% และคาดว่าสิ้นปีนี้จะปรับลดดอกเบี้ยอีกไปถึง 4.5% และปีหน้าจะปรับลงไปถึง 4% 
          ขณะที่คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) คงจะยืนอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม หรือปรับลดเพียง 0.25% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินครั้งหน้า เพราะยังไม่เห็นความจำเป็นในการปรับลด โดยภาวะเงินเฟ้อยังต่ำ จีดีพีก็ยังอยู่ในระดับดี 
          แต่ในด้านตลาดหุ้น นายวนาเชื่อว่า จากการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดจะเป็นโอกาสผลักดันให้เงินทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่มากขึ้น รวมทั้งไทยด้วย อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยอาจจะยังไม่ปรับขึ้นเร็วมากเหมือนตลาดหุ้นอื่น เพราะนักลงทุนต่างชาติยังรอความชัดเจนด้านการเมือง และนโยบายรัฐบาลใหม่ แต่คาดว่าก่อนการเลือกตั้งดัชนีตลาดหุ้นไทยน่าจะปรับขึ้น โดยสิ้นปีนี้น่าจะไปถึง  850 จุด 
          "ตอนนี้เขาเงื้อดาบแล้วแต่ยังไม่ฟัน ตลาดหุ้นไทยยังถูก แค่คงรอความชัดเจนการเมืองก่อน" นายวนากล่าว