นายสมชาย จตุธานนท์ ผู้บริหารอาวุโสฝ่ายขาย การตลาด และโลจิสติกส์ บมจ.สุธากัญจน์ (SUTHA) คาดว่ารายได้ปี 64 น่าจะดีกว่าปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,294 ล้านบาท เนื่องจากรับผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ทั้งนี้ในปีนี้ได้ลูกค้ากลุ่มเหล็กสนับสนุนยอดขาย ซึ่งแนวโน้มธุรกิจเหล็กดีขึ้นหลังจีนไม่ส่งเหล็กมาดั๊มพ์ตลาด โดยจะช่วยส่งเสริมผลประกอบการในไตรมาส 1/64 ด้วย ขณะที่ลูกค้ากลุ่มโรงงานน้ำตาลปีนี้แผ่วลงเพราะปริมาณอ้อยออกมาน้อยจากภาวะแล้ง ทั้งนี้ คาดว่าในครึ่งปีหลังดีมานด์กับกำลังการผลิตจะใกล้เคียงกัน เพราะผู้ผลิตรายใหญ่อีกรายหันไปส่งออก ทำให้การใช้กำลังการผลิตของบริษัทได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ ในไตรมาส 2/64 จะออกสินค้าใหม่ ขณะที่สินค้า Dolime ที่ออกสู่ตลาดปีที่แล้ว มีอัตราการเติบโตมากซึ่งปีนี้คาดว่ามียอดขาย 5 หมื่นตัน ซึ่งจะช่วยผลักดันให้รายได้ปีนี้เติบโตได้ ขณะเดียวกันบริษัทจะขยายส่งออก โดยปีก่อนได้ทดลองส่งไปที่ไต้หวันได้รับผลตอบรับดี เพราะไต้หวันเป็นผู้นำเข้าปูนขาว 100% แต่เนื่องจากค่าขนส่งสูงขึ้นจากการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ คาดว่าในครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้นประกอบกับมีความต้องการจากตลาดอื่นด้วย ได้แก่ เกาหลี อินเดีย บังคลาเทศ รวมทั้ง บริษัท หินอ่อน จำกัดที่เพิ่งเข้าซื้อปีก่อนจะรับรู้รายได้เต็มปีในปีนี้
ทั้งนี้ยอดขายหลักมาจากในประเทศ 90% โดยหลักเป็นกลุ่มเหล็ก 35% กลุ่มน้ำตาล วัสดุก่อสร้าง เคมีภัณฑ์ กลุ่มละประมาณกว่า 10% ส่วนต่างประเทศ 10% หรือประมาณ 2-3 หมื่นตัน
"กลยุทธ์ปีนี้ก็จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะออกขายในประเทศ และเรื่องส่งออก ซึ่งมีปัญหาเรื่อง Freight สูงขึ้นมาก เรามองว่าหลังจากครึ่งปีหลัง Freight น่าจะกลับมาเหมือนเดิม "
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ประกาศขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่จากธุรกิจหลัก (Non-Core asset) เป็นที่ดิน 4 แปลง ได้แก่ นวนคร 3 ไร่ มูลค่า 32 ล้านบาท ,หัวหิน 56 ไร่ มูลค่า 37 ล้านบาท, ที่ดินหน้าพระลาน จ.สระบุรี 29 ไร่ มูลค่า 90 ล้านบาท และ ห้วยปาวาล 11 ไร่ มูลค่า 7 ล้านบาท หากขายได้ก็จะส่งผลบวกต่อกระแสเงินสดของบริษัท
บริษัทยังได้ลงทุนโซลาร์ฟาร์มต่อเนื่องอีก 1.5 เมกะวัตต์ จากปีก่อน 2 เมกะวัตต์ จะช่วยให้ประหยัดค่าไฟรวม 16 ล้านบาทและประหยัดภาษีอีกอย่างมีนัยสำคัญ