นายสมศักดิ์ คุปตเมธี รองประธานกรรมการ บมจ. เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE) เปิดเผยถึงความคืบหน้า
โครงการก่อสร้างบ้านเอื้ออาทรของบริษัท เทคเนอร์ ซึ่งบริษัทถือหุ้นจำนวน 50%ว่า ในส่วนโครงการลาดหลุมแก้วคาดว่าจะส่งมอบ
งานแล้วเสร็จได้ภายในเดือนตุลาคม 2550 นี้
ส่วนโครงการอยุธยาและอ่างทองทางเทคเนอร์อยู่ระหว่างการเจรจากับการเคหะแห่งชาติ เพื่อขอขยายระยะเวลา
ออกไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2551
ปัจจุบัน ทางเทคเนอร์ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ ดังนี้
(หน่วย : ล้านบาท)
โครงการ มูลค่างานทั้งหมด มูลค่างานที่เบิกไปแล้ว %ที่ดำเนินการแล้วเสร็จ
1. ลาดหลุมแก้ว (974 หน่วย) 306.81 276.13 90%
2. อยุธยา (4,256 หน่วย) 1,528.16 168.10 11%
3. อ่างทอง (1,550 หน่วย) 589.76 64.87 11%
อนึ่ง เทคเนอร์ เป็นผู้ร่วมดำเนินการโครงการก่อสร้างบ้านเอื้ออาทรกับ บริษัท เอเพ็ค คอนครีท เทค จำกัด
(Apex) โดยเทคเนอร์ดำเนินการในส่วนของงานก่อสร้าง ส่วน Apex เป็นผู้ดำเนินการ ด้านจัดหาที่ดิน สำหรับ 3 โครงการ
กับ การเคหะแห่งชาติ จำนวนรวม 6,780 หน่วย
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า บริษัทในฐานะผู้ถือหุ้น 50% ในเทคเนอร์ได้ค้ำประกันกับสถาบันการเงิน เพื่อออกหนังสือค้ำ
ประกันธนาคารให้แก่ เทคเนอร์ จำนวน 416 ล้านบาท เพื่อค้ำประกันโครงการบ้านเอื้ออาทรกับการเคหะแห่งชาติ และจำนวน
63 ล้านบาท เพื่อค้ำประกันการสั่งซื้อวัสดุในการก่อสร้าง พร้อมกับให้เงินกู้ระยะสั้น จำนวนรวม 25.6 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นทุนหมุน
เวียนในการดำเนินกิจการของเทคเนอร์
แม้ว่าบริษัทจะมีภาระค้ำประกันให้แก่เทคเนอร์ แต่ภาระค้ำประกันดังกล่าวนี้จะทยอยลดลงตามลำดับเมื่อเทคเนอร์ส่ง
มอบงานที่เสร็จแล้วให้กับการเคหะได้เพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าในระยะที่ผ่านมาจะล่าช้าอยู่บ้างแต่ทางเทคเนอร์ได้มีการเจรจากับทางการ
เคหะแห่งชาติเพื่อจะได้ส่งมอบงานให้ได้ตามเป้าหมาย ซึ่งส่วนนี้ทางบริษัทเห็นว่าหากทางเทคเนอร์ยังคงส่งมอบงานให้แก่การเคหะฯ
ได้ตามเป้าหมายก็จะทำให้ผลประกอบการของเทคเนอร์อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ และมีผลทางลบกับสถานะทางการเงินของเทคเนอร์ไม่
มากนัก
ขณะเดียวกันเมื่อนำงบการเงินของเทคเนอร์เข้ามาทำเป็นงบการเงินรวมของบริษัทก็ไม่น่าจะส่งผลต่องบการเงินรวม
ของบริษัทมากนัก
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--